 |
 |
 |
 |
 |
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจำนวนมากเดินทางมายังอาคารที่สูง 79 ชั้น นับเป็นอาคารสุดแห่งหนึ่งของโลก ในนครดูไบ ช่วงเช้าตรูเวลาประมาณ 4.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ผู้อยู่อาศัยในอาคารได้รับการอพยพออกจากอาคารได้อย่างปลอดภัย
หน่วยป้องกันอัคคีภัยของดูไบกล่าวว่าทีมดับเพลิงได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคาสูงเมื่อเวลาประมาณ 4.00 น. (7.00 น.ตามเวลาประเทศไทย) และเปลวไฟเกิดขึ้นกับอาคารสูง 337 เมตร
ประชาชนที่อาศัยอยู่ในอาคารถูกอพยพ และไม่มีรายงานของผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามรายงานของเจ้าหน้าที่
เปลวเกิดขึ้นที่ด้านนอกของอาคารสูงในเมืองมารีน่า นับเป็นการไหมอาคารสูง หลังจากที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในปี 2015
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และตำรวจปิดถนนรอบบริเวณซึ่งปกคลุมด้วยฝุ่นละออง และเศษซากจากการเผาไหม้
เพลิงเกิดขึ้นในเวลา 4.00 น.ที่ด้านนอกของอาคาร ไม่มีร่องรอยของการเกิดเพลิงไหม้ที่เกิดจากผู้พักอาศัยในอาคาร ขณะที่ประชาชนมาดูอยู่ที่ด้านนอกอาคาร
“เรากำลังนอนหลับอยู่และตื่นขึ้นมาพร้อมกับสัญญาณเตือนภัย และเสียงกรีดร้องเราวิ่งลงบันได และเราใช้เวลาประมาณ 10 นาทีในการลงมาจากชั้นที่ 50” George ผู้อยู่อาศัยในอาคารดังกล่าวบอกกับรอยเตอร์
“ไฟไหม้รุนแรงมากประมาณ 1 โมงเช้าแล้วก็เริ่มสงบลงในอีกสองชั่วโมงต่อมา โดยเพลิงเริ่มต้นที่ชั้น 67 นั่นคือสิ่งที่เราได้รับทราบ” เขากล่าวเสริม
ขณะที่มูฮัมหมัด ซึ่งพักอาศัยอยู่ชั้นที่ 12 บอกว่าเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่ส่วนบนของอาคารก่อนที่จะลุกลามลงมา
ด้านรัฐบาลสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังดำเนินการเพื่อหาที่พักฉุกเฉินให้ผู้พักอาศัยอยู่ในอาคารดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบ
เมื่อปี 2015 ผู้อยู่อาศัยหลายร้อยคนในอาคารแห่งนี้ก็เคยถูกอพยพมาแล้วด้วยกับเหตุเดียวกัน
ขณะที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมานครดูไบได้ออกมาตรการด้านความปลอดภัยอาคารใหม่เพื่อป้องกันเหตุเพลิงไหม้ เบื้องต้นตรวจพบอาคารอย่างน้อย 30,000 แห่งของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีการใช้วัสดุป้องกันความร้อนหอหุ้มอาคารซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเป็นวัสดุที่ติดไฟง่าย
ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้รุนแรงในกรุงลอนดอนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 80 ราย โดยเบื้องต้นมีสาเหตุเกิดจากวัสดุห่อหุ้มอาคารที่ติดไฟง่าย
ที่มา อัลญะซีเราะห์
I-News
 |
 |
 |
 |
 |
