ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

นิวยอร์กไทม์สแฉสหรัฐฯ พลาด! ยิงโดรนสังหารใส่ ‘อาสาสมัครบรรเทาทุกข์อัฟกัน’

นิวยอร์กไทม์สแฉสหรัฐฯ พลาด! ยิงโดรนสังหารใส่ ‘อาสาสมัครบรรเทาทุกข์อัฟกัน’ ไม่ใช่ ‘มือระเบิดไอเอส’

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สเผยผลการวิเคราะห์คลิปวิดีโอปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานเมื่อวันที่ 29 ส.ค. ซึ่งอ้างว่าพุ่งเป้าสังหารมือระเบิดฆ่าตัวตายของกลุ่มรัฐอิสลามในภูมิภาคโคราซาน หรือ ISIS-K ซึ่งจะเป็นภัยคุกคามต่อสนามบิน พบว่าบุคคลที่ถูกล็อกเป้าเป็นเพียง “อาสาสมัครบรรเทาทุกข์” ชาวอัฟกันรายหนึ่ง ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย และเหตุการณ์นี้ยังคร่าชีวิตพลเรือนไปด้วยถึง 10 คน

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ อ้างว่าปฏิบัติการของโดรน “รีปเปอร์” สามารถสกัดแผนโจมตีของมือระเบิดไอเอสไว้ได้ ก่อนที่จะสหรัฐฯ จะปิดฉากภารกิจอพยพ และถอนกำลังพลทั้งหมดออกจากอัฟกานิสถานในอีก 1 วันต่อมา

อย่างไรก็ตาม ไอมาล อาห์มาดี ชาวบ้านในกรุงคาบูลคนหนึ่ง ให้ข้อมูลกับเอเอฟพีว่า การโจมตีครั้งนั้นทำให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 10 คน ในจำนวนนี้มีทั้งลูกสาว, หลานชาย, หลานสาว และพี่ชายของเขาที่ชื่อ “เอซมาไร อาห์มาดี” ซึ่งเป็นผู้ขับรถยนต์โตโยต้าสีขาวคันที่ถูกโดรนสหรัฐฯ ยิงถล่ม

นิวยอร์กไทม์สซึ่งได้วิเคราะห์คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวรายงานเมื่อวานนี้ (10 ก.ย.) ว่า กองทัพสหรัฐฯ อาจจะเข้าใจผิดเมื่อเห็น อาห์มาดี กับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งขนย้าย “ถังบรรจุน้ำ” และหิ้วกระเป๋าแล็ปท็อป

ญาติผู้เสียชีวิตเล่าว่า เอซมาไร อาห์มาดี เคยเป็นวิศวกรไฟฟ้าให้กับ Nutrition and Education International ซึ่งเป็นองค์กรบรรเทาทุกข์ที่มีฐานอยู่ในแคลิฟอร์เนีย และตัวเขาเองก็เป็นหนึ่งในชาวอัฟกันหลายพันคนที่ยื่นคำร้องขอย้ายไปตั้งถิ่นฐานใหม่ในสหรัฐอเมริกา

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ อ้างว่า การระเบิดที่รุนแรงกว่าซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่โดรนโจมตี แสดงให้เห็นว่าในรถยนต์คันดังกล่าวมีวัตถุระเบิดซุกซ่อนอยู่ แต่จากการตรวจสอบและวิเคราะห์ภาพโดยนิวยอร์กไทม์ส “ไม่พบ” ร่องรอยของการระเบิดครั้งที่ 2

ไอมาล อาห์มาดี ให้ข้อมูลกับเอเอฟพว่ามีพลเรือนถูกสังหารทั้งหมด 10 คน ในขณะที่สหรัฐฯ ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนเพียงแค่ 3 คน และย้ำว่าปฏิบัติการครั้งนี้สามารถยับยั้งเหตุวินาศกรรมรุนแรงที่อาจทำให้มีผู้คนบาดเจ็บล้มตายอีกมากมาย

จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกเพนตากอน ระบุว่ากองบัญชาการกลางสหรัฐฯ “ยังอยู่ระหว่างประเมินผลลัพธ์” ของการโจมตี และยืนยันว่า “ไม่มีกองทัพชาติใดที่พยายามปกป้องชีวิตพลเรือนมากเท่าเรา”

นิวยอร์กไทม์สตั้งข้อสังเกตด้วยว่า กลุ่มนักรบรัฐอิสลามที่ก่อเหตุยิงจรวดโจมตีในเช้าวันถัดมา (30) ใช้รถยนต์โตโยต้าโคโรลลาสีขาวรุ่นเดียวกันกับรถยนต์ของ อาห์มาดี

สงครามอัฟกานิสถานที่สหรัฐฯ ก่อขึ้นเพื่อตอบโต้เหตุวินาศกรรม 9/11 ส่งผลโดยตรงให้พลเรือนทั้งชาวอัฟกันและปากีสถานเสียชีวิตไปกว่า 71,000 คน และตัวเลขผู้เสียชีวิตก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก หลังจากที่อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ มีคำสั่งผ่อนคลายกฎการปะทะ (rules of engagement) เมื่อปี 2017 ตามผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยบราวน์ที่เผยแพร่เมื่อเดือน เม.ย.

ที่มา: เอเอฟพี