ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

โมร็อกโกตกลงสถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล

โมร็อกโกเป็นประเทศที่ 4 ในปีนี้ ซึ่งเตรียมสถาปนาความสัมพันธ์ “อย่างเป็นทางการ” กับอิสราเอล ตามการยืนยันโดยสหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศผ่านทวิตเตอร์ เมื่อวันพฤหัสบดี ว่าโมร็อกโกและอิสราเอลเห็นพ้องการเตรียมสถาปนาความสัมพันธ์ “ระดับปกติอย่างเต็มรูปแบบ”  ภายในอนาคตอันใกล้นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญของกระบวนการสันติภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางและโลกอาหรับ

ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐกล่าวด้วยว่า รัฐบาลวอชิงตัน “ยอมรับอธิปไตย” ของโมร็อกโก “เหนืออาณาเขตทั้งหมดภูมิภาคเวสเทิร์นซาฮารา เรียกเสียงประณามอย่างหนักจากกองกำลังโปลิซาริโอ ซึ่งสู้รบกับกองทัพโมร็อกโกมานานเกือบครึ่งศตวรรษ เพื่อ “ปลดปล่อย” ภูมิภาคเวสเทิร์นซาฮารา โดยได้รับความสนับสนุนจากแอลจีเรีย

ในเวลาเดียวกัน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แถลงว่าอิสราเอลขอบคุณ และมีความซาบซึ้งต่อการตัดสินพระทัย “ครั้งประวัติศาสตร์” ของสมเด็จพระราชาธิบดีโมฮัมเหม็ดที่ 6 และแสดงความเชื่อมั่นว่า ชาวอิสราเอลและชาวโมร็อกโก “จะมีความสัมพันธ์อบอุ่นในยุคสมัยใหม่นี้”

ทั้งนี้ โมร็อกโกนับเป็นประเทศที่ 4 ในปีนี้ ที่ยืนยันการสถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับอิสราเอล ต่อจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี ) บาห์เรน และซูดาน ขณะที่เมื่อรวมกับสอียิปต์และจอร์แดน ซึ่งเป็น 2 ประเทศแรกในโลกอาหรับที่สถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล เมื่อปี 2522 และ 2537 ตามลำดับ

อนึ่ง โมร็อกโกและอิสราเอลเคยีสำนักงานประสานงานด้านการทูต ในกรุงราบัต และกรุงเทลอาวีฟ แต่ปิดไปเมื่อปี 2545 จากความขัดแย้ง อันเนื่องมาจากการประท้วงอย่างรุนแรงของชาวปาเลสไตน์  ด้านสำนักพระราชวังของโมร็อกโกเผยแพร่แถลงการณ์ โดยใช้ถ้อยคำระมัดระวังอย่างชัดเจน ว่าความคเลื่อนไหวครั้งนี้ “ไม่ใช่การยอมรับสถานะ” ของอิสราเอล แต่คือเพื่อ “การฟื้นฟูความสัมพันธ์ที่เคยห่างเหิน”.

เครดิตภาพ : AFP

ที่มา: เดลินิวส์

เรื่องที่เกี่ยวข้อง