วันอาทิตย์ 6 กรกฎาคม 2568
ติดตามเว็บไซต์
หน้าแรก > ข่าวประจำวัน > ความขัดแย้งระหว่าง ยูทูบเบอร์ กับ นักบรรยายศาสนา

ความขัดแย้งระหว่าง ยูทูบเบอร์ กับ นักบรรยายศาสนา

หมวดหมู่ : ข่าวประจำวัน เปิดอ่าน 253 ครั้ง

นักบรรยายโซเซี่ยล จชต.ห้ามนำคลิปบรรยายไปเผยแพร่ต่อ ร้องยูทูบให้ปิดช่อง!! ทั้งๆก่อนโด่งดังไม่ได้รับการร้องเรียนแต่อย่างใด

หลังจากที่ทางเว็บไซต์ยูทูบ เปิดโอกาสให้กับนักเครเอเตอร์วีดีโอเผยแพร่คลิปผ่านโซเซี่ยลมีเดีย แล้วก็จะมีการแบ่งเปอร์เซ็นต์รายได้จากการโฆษณาให้แก่เครเอเตอร์เหล่านั้นอีกด้วย จนทำให้เป็นที่น่าสนใจแก่นักสร้างคลิปหรือยูทูเบอกันอย่างล้นหลาม โดยทางยูทูบไม่ได้กำหนดรูปแบบการนำเสนออย่างตายตัว เพียงแต่ให้มีผู้ติดตามและมีชั่วโมงการติดตามตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้เท่านั้นเอง

ขณะเดียวกันในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และพื้นที่อื่นๆ มีความนิยมในการจัดบรรยายศาสนาอย่างกว้างขวาง โดยในช่วงก่อนมีการระบาดโดวิด-19 จะมีการบรรยายทุกๆคืนเลยก็ว่าได้ และมีการไลฟ์สดผ่านสื่อโซเซี่ยลมีเดีย โดยเฉพาะผ่านช่องทางเฟสบุ๊ค จากนั้น ก็จะมีนักสร้างคลิปหรือครีเอเตอร์ ได้นำวีดีโอบรรยายที่ถ่ายทอดสดผ่านเฟสบุ๊คดังกล่าวนั้น ไปตัดต่อในคำพูดและเนื้อหาที่เด็ดๆ เพื่อไปเผยแพร่ต่อทางเพจเฟสบุ๊ค ไอจี ติกต๊อก และยูทูบ ทำให้นักบรรยายเหล่านั้นเป็นที่รู้จักกันอย่างรวดเร็ว จนแซงหน้าเหล่ายูทูบเบอร์และเน็ตไอดอลในพื้นที่อย่างไม่คาดคิด ทั้งๆที่นักบรรยายเหล่านั้น ไม่เคยเป็นที่นิยมในสังคมมาก่อนเลย

หลังจากที่นักบรรยายเหล่านั้นเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมในสังคมแล้ว พวกเขาก็ใช้โอกาสของการมีชื่อเสียงไปเปิดช่องยูทูบ เพจเฟสบุ๊ค ไอจี เป็นของตัวเอง ทำให้ช่องทางที่เขาสร้างขึ้นมาเป็นที่ติดตามอย่างรวดเร็ว จนแซงหน้านักเครเอเตอร์ที่ตัดต่อคลิปบรรยายช๊อดเด็ดๆ ของเขาในก่อนหน้านี้อย่างไม่คาดคิด และง่ายกว่าต่อการผ่านขั้นตอนของการสร้างรายได้ผ่านช่องทางโซเซี่ยลมีเดียอีกด้วย อีกทั้ง ยังง่ายต่อการรับบริจาคจากเหล่าแฟนคลับที่ติดตามมาอย่างเนิ่นนาน

ล่าสุด มีเครเอเตอร์เฟสบุ๊คและยูทูบรายหนึ่ง(ขอสงวนชื่อ) เผยว่า ช่องยูทูบเผยแพร่คลิปบรรยายของเขา ที่เขาได้ตัดต่อเป็นคลิปสั้นๆของเหล่านักบรรยายในพื้นที่และเผยแพร่คลิปบรรยายมาอย่างช้านาน นับเป็นปี ได้ถูกร้องเรียนจากนักบรรยายเหล่านั้นเพื่อให้ช่องของเขาถูกปิดลง เพียงเพราะเขามีการนำคลิปบรรยายไปเผยแพร่ในช่องยูทูบของตนนั้นเอง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยถูกร้องเรียนให้ปิดช่องแต่อย่างใด เพราะในช่วงนั้น โดยส่วนมากนักบรรยายยังไม่มีช่องทางการเผยแพร่เป็นของตนเอง จนทำให้เขาต้องเปลี่ยนแนวการนำเสนอในช่องทางของตนเองอย่างกะทันหัน มิเช่นนั้นช่องยูทูบของเขาจะถูกปิดลง แล้วจำนวนผู้ติดตามเกือบ 1 แสนคน ก็ถูกลอยเกลือนไปด้วย

ต่อมามีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งโพสต์ว่า “

“ก่อนที่คุณจะโด่งดัง ก็เพราะชาวโซเซียล และยูทูบครีเอเตอร์นี่แหล่ะ ได้ตัดต่อคลิปสั้นๆและเผยแพร่ ผลงานของคุณ…แต่พอคุณดังและมีค่าตัวที่สูงส่งแล้ว คุณกลับไปร้องเรียนให้ปิดช่องทางที่เขานำเสนอ เพราะผลประโยชน์ล้วนๆ…นี่หรอ คือ นักเผยแพร่ศาสนา ถ้าเป็นแบบนี้ ไปเปิดค่ายเพลงดีกว่าไหม? แล้วจดลิขสิทธิ์กัน

ใช่!! ถ้าพูดถึงในเชิงรูปธรรม เหล่าครีเอเตอร์นั้นผิดเต็มๆเพราะมันเป็นผลงานของคุณ แต่อยากให้คุณคิดว่า ถ้าไม่มีพวกเขาที่ขยันตัดคลิปสั้นๆผลงานของคุณในครั้งที่ผ่านๆมา คุณก็จะไม่มีวันเกิดและมีขื่อเสียงอย่างทุกวันนี้แน่นอน ทำไมคุณไม่ไปร้องเรียนให้ปิดช่องเขาตั้งแต่ยอดติดตามของคุณเป็นหลักหน่วย ช่วงนั้นใครจะแชร์ และไปเผยแพร่ต่อ มีแต่ยินดีๆ โดยอ้างว่า เราต้องการเผยแพร่ศาสนา แต่ตอนนี้ มันกลายเป็น “ศาสนธุรกิจ”

อ้อ!! อีกอย่างหนึ่ง ถ้าสังเกตดีๆ ตั้งแต่ไตเติลรายการ เอฟเฟค และเสียงแบกกราวน์ ของคุณก็ล้วนแต่ เอาของคนอื่นเช่นกัน นี่หรอ คือ นักเผยแพร่ศาสนา ในยุคอาเครซามาน…

ปล.ไม่ใช่ทุกคนน่ะ!!”

นอกจากนี้ มีผู้มาแสดงความคิดเห็นรายหนึ่ง แนะนำว่า ให้นักบรรยายเหล่านั้นไปจดสิทธิบัตรเป็นของตัวเอง เพื่อมิให้ใครไปก็อปปี้ ตัดต่อ ดัดแปลง ใดๆทั้งสิ้น พร้อมย้ำ หลังจากนี้ บรรยายออนไลน์ ไม่ต้องขอบริจาค เพื่อซื้ออุปกรณ์ นู้น นี้ นั้น เพราะถึงยังไง ก็ได้รายได้จากยูทูบแล้ว!!

www.paktaireport.com

ข่าวล่าสุดของหมวดหมู่ ข่าวประจำวัน

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ความขัดแย้งระหว่าง ยูทูบเบอร์ กับ นักบรรยายศาสนา "

ปิดการแสดงความคิดเห็น