กอท.ร่วมตำรวจเศรษฐกิจบุกทลายโรงงานลูกชิ้นเนื้อ “ชัยสิทธิ์” ปลอม “ฮาลาล” ทั้งอาจปนเปื้อนหมู

คณะกรรมการตรวจการผลิตภัณฑ์ฮาลาล คณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย (กอท.) ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) นำหมายค้นเข้าตรวจสอบแหล่งผลิตลูกชิ้นเนื้อ ยี่ห้อ “ชัยสิทธิ์” ละเมิดเครื่องหมายฮาลาล มิหนำซ้ำลูกชิ้นอาจปนเปื้อนเนื้อสุกร ลั่นเอาผิดถึงที่สุด

“ปีกว่าๆ มาแล้ว ที่คณะกรรมการอิสลามฯ ได้รับทราบว่ามีลูกชิ้นเนื้อ ยี่ห้อชัยสิทธิ์ ซึ่งจำหน่ายทั่วประเทศโดยติดเครื่องหมายฮาลาลที่ไม่ได้รับอนุญาต หลังใช้ความพยายามสืบจนพบแหล่งผลิตก็ได้ประสานเจ้าหน้าที่ขอหมายค้นและเข้าตรวจสอบโดยทันที” พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวในการแถลงข่าวที่โรงแรมรีเจนท์ ย่านรามคำแหง เมื่อวันอังคาร ที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

คณะกรรมการตรวจการผลิตภัณฑ์ฮาลาล คณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย (กอท.) ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) แถลงข่าวกรณีนำหมายค้นเข้าตรวจสอบแหล่งผลิตลูกชิ้นเนื้อ ยี่ห้อ “ชัยสิทธิ์” ละเมิดเครื่องหมายฮาลาล

กรณีนี้สืบเนื่องจาก คณะกรรมการตรวจการผลิตภัณฑ์ฮาลาล สำนักงานคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ได้รับร้องเรียนจากผู้บริโภคมุสลิมเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 ว่าลูกชิ้นเนื้อยี่ห้อ “ชัยสิทธิ์” ซึ่งมีวางขายทั่วประเทศ อาจเป็นติดเครื่องหมายฮาลาลปลอมเพื่อหลอกลวงผู้บริโภคมุสลิมให้เข้าใจผิดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมุสลิมสามารถรับประทานได้

นายณรงค์เดช สุขจันทร์ เลขานุการฝ่ายตรวจการผลิตภัณฑ์ฮาลาล เผยกับผู้สื่อข่าวว่า แต่เนื่องจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีการระบุสถานที่ผลิตและจัดจำหน่ายที่สามารถติดต่อได้ จึงทำให้การสืบค้นของฝ่ายตรวจการผลิตภัณฑ์ฮาลาลเป็นไปอย่างลำบากและล่าช้า รวมทั้งไม่สามารถนำผลิตภัณฑ์ตัวจริงมาตรวจสอบอย่างละเอียดตามระเบียบของฝ่ายกิจการฮาลาลได้

ฝ่ายตรวจการผลิตภัณฑ์ฮาลาล สำนักงานคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ได้เข้าตรวจสอบสถานที่ผลิตลูกชิ้นเนื้อชัยสิทธิ์ซึ่งตั้งอยู๋ที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

“จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 นายไชยา สกุลชาห์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ไปพบผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในตลาด อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จึงนำมาส่งตรวจและฝ่ายกิจการฮาลาลยืนยันว่า ลูกชิ้นเนื้อตรา “ชัยสิทธิ์” นำเครื่องหมายไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต จึงมีการเริ่มดำเนินการสืบค้นหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้ได้สถานที่ตั้งโรงงานผลิต” นายณรงค์เดช กล่าว
ที่สุดจึงนำมาสู่การขอหมายค้น โดยฝ่ายตรวจการผลิตภัณฑ์ฮาลาล สำนักงานคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) ได้เข้าตรวจสอบสถานที่ผลิตซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา
ขณะนี้ได้มีการนำส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไปให้ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อตรวจสอบหาการปนเปื้อนของเนื้อสุกรต่อไป เนื่องจากโรงงานดังกล่าวใช้เครื่องจักรเดียวกันในการผลิตลูกชิ้นหมูและลูกชิ้นเนื้อซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีการปนเปื้อนดังกล่าว

พ.ต.ท.วีระพงษ์ หอมหวล รอง ผกก.กก.4 ปอศ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจสอบโรงงานผลิตลูกชิ้นตรา ชัยสิทธิ์ ตั้งอยู่เลขที่ 11/6 หมู่ 6 ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี พบว่ามีลูกชิ้นเนื้อวัวบรรจุถุงปลอมเครื่องหมายรับรองฮาลาลจำนวนหนึ่ง และถุงบรรจุซึ่งใช้เครื่องหมายรับรองฮาลาลโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกเป็นจำนวนมาก

“การกระทำเช่นนี้เป็นการละเมิดเครื่องหมายลิขสิทธิ์ทางการค้า ที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีนี้เราก็จะเำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” พ.ต.ท.วีระพงษ์ กล่าวและเน้นย้ำว่า “อยากฝากเตือนไปถึงผู้ประกอบการว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถจะใช้เครื่องหมายฮาลาลได้”
พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “เครื่องหมายฮาลาลเป็นผลประโยชน์ของประเทศไทย โดยคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแล เครื่องหมายฮาลาลที่ได้รับความเชื่อมั่นจากต่างประเทศก็หมายถึงการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งนำรายได้มหาศาลเข้าประเทศของเรา ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ก็เป็นผู้ประกอบการคนไทยโดยรวม เราจึงต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่กระทำผิดที่ทำลายความเชื่อมั่นนี้”

นอกจากนี้ คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทยฝากประชาสัมพันธ์ถึงมุสลิมให้หลีกเลี่ยงที่จะบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีเครื่องหมายรับรองฮาลาล และควรพิจารณาเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายรับรองฮาลาลชัดเจนและถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลหรือแจ้งข้อมูลการละเมิดได้ที่ ฝ่ายกิจการฮาลาล สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย เลขที่ 45 หมู่ 3 ถนนคลองเก้า แขวงคลองสิบ เขตหนองจอก กรุงเทพฯ 10530 โทรศัพท์ 02-949-4215,02-949-414 ต่อ114 โทรสาร 02-949-4308,02-949-4250 เว็บไซด์ www.cicot.or.th

ที่มา:พับลิกโพสต์