ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันศุกร์, 29 มีนาคม 2567

สำนักจุฬาราชมนตรีชี้แจงฯ กรณีคณะกรรมการอิสลาม5จังหวัดขอผ่อนปรนละหมาดวันศุกร์

 

สำนักจุฬาฯชี้แจงว่า “มาตรการที่ประกาศก่อนหน้านี้ สอดคล้องเป็นไปตามหลักศาสนาอิสลามทุกประการ โดยมีเจตนารมณ์ตั้งมั่นอยู่ในการรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตมนุษย์ และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมทุกภาคส่วน “

กรณีคณะกรรมการอิสลาม5จังหวัดชายแดนใต้ ทำหนังสือขอผ่อนปรนการขอละหมาดญุมอะห์(วันศุกร์)ในมัสยิด ในจังหวัด ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา

ด้านสำนักจุฬาราชมนตรีส่งหนังสือชี้แจง

สำนักจุฬาราชมนตรีได้รับทราบปัญหาการขอผ่อนผันของสมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามชายแดนภาคใต้แล้ว และได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการประกอบศาสนกิจอย่างยิ่ง การละหมาดวันศุกร์ที่จำเป็นสำหรับผู้ชาย

แต่การผ่อนผันมาตรการใดๆ อันมีผลต่อการควบคุมการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 จำเป็นต้องพิจารณาจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ และข้อมูลด้านสาธารณสุขอย่างรอบด้าน เพื่อประกอบในมาตรการผ่อนผัน ด้วยเหตุนี้จุฬาราชมนตรี ได้ส่งหนังสือไปยังผู้ว่าราชการ5จังหวัดในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อ และผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัด อีกทั้งยังหารือกับสมาคมจันทร์เสี้ยว การแพทย์และสาธารณสุขเพื่อนำข้อมูลมาประกอบและพิจารณาในลำดับต่อไป โดยมาตรการที่สำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศมาก่อนหน้า ล้วนสอดคล้องเป็นไปตามหลักศาสนาอิสลามทุกประการ โดยมีเจตนารมณ์ตั้งมั่นอยู่ในการรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตมนุษย์ และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมทุกภาคส่วน

โดยสำนักจุฬาราชมนตรีได้ขอให้ประธานคณะกรรมการอิสลามทุกจังหวัด ได้ชี้แจงให้ประชาชนอดทนและปฎิบัติตามคำประกาศของจุฬาราชมนตรีไปก่อน

สรุปใจความง่ายๆจากสำนักจุฬาราชมนตรีคือ
ยังไม่อนุญาตให้มีการรวมตัวละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด ต้องรอการพิจารณาจากหลายหน่วยงานอีกครั้งนึง

สิ่งที่สำนักจุฬาราชมนตรีประกาศงดละหมาดที่มัสยิดไปก่อนหน้านี้ ล้วนดำเนินไปตามข้อบัญญัติรวมทั้งข้อผ่อนปรนต่างๆโดยไม่ได้ละเมิดต่ออัลกุรอานและซุนนะห์ ที่ผ่านการวินิจฉัยจากบรรดาอูลามาอฺ

ดังนั้นให้ประชาชนปฎิบัติศาสนกิจที่บ้านไปก่อน

โดยประเทศไทยไม่ใช่ประเทศเดียวที่ออกคำสั่งงดละหมาดที่มัสยิด ประเทศมุสลิมและไม่ใช่มุสลิมได้งดละหมาดต่างๆที่มัสยิดเช่นเดียวกัน

#Pageรู้จักมุสลิมรู้จักอิสลาม เรียบเรียง