มุสลิมละหมาดที่มัสยิดสำคัญ แต่การป้องกันโรคสำคัญยิ่งกว่า

มุสลิมละหมาดที่มัสยิดสำคัญ แต่การป้องกันโรคสำคัญยิ่งกว่า

มัสยิดที่เสี่ยงในการประกอบพิธีละหมาด โดยเฉพาะการละหมาดวันศุกร์ ต้องระวังมากกว่าการละหมาดยามาอะห์ (ละหมาดร่วม) การละหมาดวันศุกร์ ถ้าจะไม่ร่วมละหมาดก็ไม่เป็นไร เพราะว่าช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤติ

แท้ที่จริงแล้วการละหมาดวันศุกร์ หรือการละหมาดร่วมนั้น เป็นสิ่งที่ศาสนาเน้นหนัก แต่ในเรื่องของการป้องกันให้พ้นจากโรคระบาดนั้น #เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า

ซึ่งหากเราจะละหมาดวันศุกร์ เราต้องป้องกันตัวเองโดยใช้เจลล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และนำผ้าปูละหมาดส่วนตัว เราต้องขอพรจากอัลลอฮอยู่เสมอเพื่อให้พ้นจากโรคระบาดนี้

สำหรับที่มัสยิดอิบาดุรรอฮมาน แห่งนี้ จะทำการละหมาดควบ #ซุฮรีกับอัสรี #มักริบกับอีซา และซุบฮี
นั่นหมายถึงเราจะเจอกันที่มัสยิดแค่ 3 เวลาเท่านั้น

ศาสดามูฮัมหมัด (ซ.ล.) ได้เคยละหมาดควบที่มัสยิดมาดีนะห์ และพระสหายของท่านถามว่า ไฉนท่านจึงละหมาดควบ นบีมูฮัมหมัดตอบว่า เพื่อที่จะให้พวกท่านทั้งหลายลดหย่อน ผ่อนปรนในการละหมาด

หากท่านใดที่มีอาการป่วย ไข้ หวัด ขอร้องไม่ต้องมาละหมาดที่มัสยิด ส่วนคนปกติให้มาละหมาดโดยใส่หน้ากากอนามัย นำผ้าปูละหมาดส่วนตัว และใช้เจลล้างมือ
.
นอกจากนี้ การละหมาดวันศุกร์นั้น รศ. ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา กล่าวว่า ขอความกรุณาอย่าได้อ่านคุตบะห์ (ปาฐกถา) ที่ยาวเกิน เพื่อลดช่วงเวลาที่อยู่ร่วมกันเป็น

เว้นระยะในการอยู่ร่วมกัน
อ่านอย่างน้อยสิบนาที เพราะว่าการอ่านคุตบะห์นานๆจะทำให้ผู้ฟังเบื่อ ง่วง

ในมัสยิดที่นครมักกะห์ ซาอุดิอาระเบีย ก็เช่นเดียวกันจะอ่านคุตบะห์แค่ 15 นาที ถ้าเราป่วยต้องแยกตัวโดยไม่อยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่น แม้กระทั่งครอบครัวเรา ลูกๆเราเอง ส่งเสริมให้อ่านอัซกัรนาบาวี (บทสวดเช้า-เย็น) และอ่านดูอาร์เพื่อให้พ้นจากภัยพ้บัติทุกครั้งที่จะออกจากบ้าน หากท่านปฏิบิติไดัเช่นนี้แล้ว เราทั้งหลายก็จะสามารถผ่านพ้นจากวิกฤตินี้ได้

ขอบคุณ
รศ. ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี
มหาวิทยาลัยฟาฏอนี
bigsta.net
แหล่งที่มา : สวท.ยะลา

#ขุนคมคำ