นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาเป็นครั้งแรกต่อบรรยากาศร้อนระอุในตะวันออกกลาง ว่าอิหร่าน “จะเละเป็นจุณ” หากโจมตีอิสราเอลก่อนพุธที่ 8 มกราคม 2563 เวลา 16.58 น.
ถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาและเป็นทางการครั้งแรกของรัฐบาลอิสราเอล ต่อบรรยากาศในตะวันออกกลางที่กำลังตึงเครียดถึงขีดสุด โดยไออาร์จีซีระดมยิงจรวดมากกว่า 20 ลูก โจมตีฐานทัพ 2 แห่งของสหรัฐในอิรัก คือที่จังหวัดอันบาร์ และในเมืองเออร์บิล ซึ่งเป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานที่อยุ่ทางเหนือ เพื่อตอบโต้ที่ทหารอเมริกันสังหารพล.ต. โซไลมานี และนายอาบู มาห์ดี อัล-มูฮันดิส อดีตรองผู้บัญชาการกองกำลังนักรบชีอะห์ในอิรักซึ่งเป็นพันธมิตรกับอิหร่านในนาม “ฮัชด์” โดยไออาร์จีซีขู่ขยายขอบเขตของปฏิบัติการทางทหารไปยังเมืองไฮฟาของอิสราเอล และนครดูไบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ( ยูเออี )
ขณะเดียวกัน เนทันยาฮูกล่าวย้อนไปถึงสมัยที่อิสราเอลเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะในการทำสงครามหกวัน เมื่อปี 2510 และการที่อิสราเอลแทบไม่มีความสัมพันธ์การทูตอย่างเป็นทางการกลับกลุ่มประเทศอาหรับ ยกเว้นอียิปต์และจอร์แดน ว่าความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับโลกอาหรับ “กำลังเข้าสู่จุดพลิกผันครั้งใหญ่” แต่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด และกล่าวถึงสหรัฐว่า “คือมหามิตรดีที่สุด” ของอิสราเอล และไม่มีใครเป็นมิตรกับอเมริกาได้เท่าอิสราเอล
อนึ่ง สื่อท้องถิ่นของอิสราเอลรายงานเมื่อต้นสัปดาห์นี้ อ้างแหล่งข่าวจากการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าเนทันยาฮูกำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนห้ามวิพากษ์วิจารณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับอิหร่านในตอนนี้ “เพราะไม่ใช่เรื่องของอิสราเอล”.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
www.dailynews.co.th