วันอังคาร 8 กรกฎาคม 2568
ติดตามเว็บไซต์
หน้าแรก > ข่าวประจำวัน > ภาพเมธี ลาบานูน (อัสวาน) พร้อมภรรยาร่วมเข้าพิธีฮัจย์

ภาพเมธี ลาบานูน (อัสวาน) พร้อมภรรยาร่วมเข้าพิธีฮัจย์

หมวดหมู่ : ข่าวประจำวัน เปิดอ่าน 2,813 ครั้ง
ภาพ อัสวาน เมธี ลาบานูน พร้อมภรรยาร่วมเข้าพิธีฮัจย์ปีนี้
news.muslimthaipost.com

ความฝันของมุสลิมทุกๆ คน คือ การไปประกอบพิธีฮัจย์ ที่นครมักกะฮ์ อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต และอีกหนึ่งฝัน คือ การไปประกอบพิธีอุมเราะห์ ทั้งนี้ กรณีอุมเราะห์ สามารถเดินทางไปได้ตลอดทั้งปี แต่การประกอบพิธีฮัจย์ จะมีช่วงระยะเวลาที่กำหนดชัดเจน

ฮัจย์ปี 1439 นักร้องมุสลิมเสียงดีชื่อดัง อัสวาน “เมธี ลาบานูน” หรือ “เมธี อรุณ” พร้อมภรรยาสุดที่รัก “ฟาตีม๊ะ หมาดตา” ได้เข้าร่วมทำฮัจย์ครั้งแรกในปี 1439

อัสวานได้โพสต์ภาพบัยตุ้ลลอฮ์ (บ้านแห่งอัลลอฮ์) ลงในอินสตาแกรม โดยระบุว่า “ครั้งหนึ่งในชีวิต หากเจ้ามีความสามารถ……. ด้วยรักเเละศรัทธา บันทึกการเดินทางของนายเมธี”  ที่เมืองมักกะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย การเดินทางครั้งสำคัญในชีวิต

ดุอาร์ขอให้ทุกท่านได้ฮัจมัมรูร อามีนๆๆ

 

 

การทำฮัจย์ เป็นการยืนยันบทบาทของความเป็นบ่าวโดยสมบูรณ์ เพราะการทำฮัจย์ ต้องมีความนอบน้อม ถ่อมตน ยอมตนต่ออัลลอฮ์ ผู้ที่ทำฮัจย์จะนำตัวเขาออกจากความผาสุกของดุนยาอพยพไปสู่ความภักดีต่อพระเจ้าของเขา ละทิ้งทรัพย์สิน ครอบครัว บ้านเมือง เสื้อผ้าที่สวยงามของเขาเพื่อสวมใส่ชุดเอี๊ยะห์รอม  เปิดศีรษะนอบน้อมต่ออัลลอฮ์  ละทิ้งน้ำหอมและการร่วมหลับนอนกับภรรยา  นำพาตัวไปสู่หลักการด้วยหัวใจที่ยำเกรง ดวงตาที่เจิ่งนองไปด้วยกับน้ำตา และลิ้นที่กล่าวรำลึกและหวังความเมตตากลัวต่อการลงโทษของพระผู้อภิบาล และภายใต้ความรู้สึกต่างๆของพวกเขาอยู่ในถ้อยคำที่ว่า “ลับบัยกัลลอฮุมม่า ”  ความหมายคือ 

(ข้าพระองค์ตอบรับคำเชิญของพระองค์แล้วปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์ พร้อมที่จะรับหน้าทีในการเคารพเชื่อฟังต่อพระองค์ ยอมตนต่อพระองค์โดยไม่ปฏิเสธและลังเล

 

การทำฮัจญ์ คือการยืนหยัดอยู่ในการรำลึกนึกถึงอัลลอฮ์  และการรำลึกถึงอัลลอฮ์ คือ เป้าหมายสูงสุดในทุกๆอิบาดะห์  อิบาดะห์ทั้งหลายจะไม่ถูกวางบทบัญญัติเว้นแต่มีไว้เพื่อรำลึกนึกถึงคำสั่งของพระองค์ และเข้าใกล้ชิดต่อพระองค์ และการทำฮัจย์ทั้งหมด คือการรำลึกนึกถึงอัลลอฮ์ 

ดังที่อัลลอฮ์ ตรัสไว้ว่า ความว่า  :  เพื่อพวกเขาจะได้มาร่วม เป็นพยานในผลประโยชน์ของพวกเขา และกล่าวพระนามอัลลอฮ์ในวันที่รู้กันอยู่แล้ว” 

อัลลอฮ์ ตรัสไว้อีกว่า  ความว่า:  ไม่มีโทษใด  แก่พวกเจ้า การที่พวกเจ้าจะแสดวงหาความกรุณาอย่างหนึ่งอย่างใดจากพระเจ้าของพวกเจ้า ครั้นเมื่อพวกเจ้าได้หลั่งไหล กันออกจากอะเราะฟาดแล้ว ก็จงกล่าวรำลึกถึงอัลลอฮ์  อัลมัชระริลฮะรอม และจงกล่าวรำลึกถึงพระองค์  ดังที่พระองค์ได้ทรงแนะนำพวกเจ้าไว้ และแท้จริงก่อนหน้านั้น พวกเจ้าอยู่ในหมู่ผู้ที่หลงทาง

ไม่ว่าจะเป็นการตอวาฟรอบกะอ์บะ หรือการสะแอระหว่างภูเขาศอฟาและมัรวะห์ หรือการขว้างเสาหิน หรือพิธีกรรมทั้งหลายของฮัจย์ ล้วนแล้วแต่ถูกวางบทบัญญัติเพื่อเป็นการรำลึกนึกถึงอัลลอฮ์ และด้วยเหตุนี้จึงเป็นการชี้ให้เห็นถึงความสูงส่งของการรำลึกถึงอัลลอฮ์ และตำแหน่งอันสูงส่งของมัน เพราะมันคือเจตนารมณ์ของการทำอิบาดะห์ทั้งหมด  

การทำฮัจย์  เป็นการทบทวนประวัติศาสตร์อันสวยงามแก่หัวใจของผู้ศรัทธาทุกคน  ให้เขาได้จินตนาการในช่วงเวลาที่เขากำลังทำฮัจย์ ในช่วงที่เขาได้ผ่านสถานที่ต่างๆ ได้รำลึกนึกถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของบรรพบุรุษของพวกเรา นั่นก็คือ นบีอิบรอฮีม อะลัยฮิสสลาม  รำลึกถึงการให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ของท่านนบีอิบรอฮีม  การอพยพของท่าน และบทบาทในการเป็นบ่าวที่รู้คุณของท่าน และความรักอันยิ่งใหญ่ของท่านต่ออัลลอฮ์เหนือตัวของท่าน และรำลึกถึงบททดสอบอันยิ่งใหญ่ที่ท่านได้ประสบ และเกียรติยศกับตำแหน่งอันสูงส่งของท่าน  และรำลึกถึงการประกาศของท่านในการประกอบพิธีฮัจย์ และดุอาของท่านแก่ชาวมักกะห์   

อัลลอฮ์ตะอาลา ตรัสไว้ว่า : ความว่า:   ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์โปรดทรงให้ที่นี่เป็นเมืองที่ปลอดภัย และประทานบรรดาผลไม้ให้เป็นปัจจัยยังชีพแก่ชาวเมืองนั้นด้วย คือผู้ที่ศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และวันปรโลกจากพวกเขา ด้วยกับดุอาของท่านนบีที่มีความจำเริญเราจึงได้เห็นร่องรอยของการดุอานั้นตราบจนทุกวันนี้

ภาพจาก:   อาสอารี ลาเต๊ะ
ข้อมูลบางส่วน :  www.islammore.com
news.muslimthaipost.com

เปิดอ่าน 2,813 ครั้ง

ข่าวล่าสุดของหมวดหมู่ ข่าวประจำวัน

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ภาพเมธี ลาบานูน (อัสวาน) พร้อมภรรยาร่วมเข้าพิธีฮัจย์ "

ปิดการแสดงความคิดเห็น