
เรียกได้ว่าได้รับความสนใจอย่างมาก โดยรัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ได้มีการเตรียมเปลี่ยนหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินให้กับระบบผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรสำหรับผู้มีรายได้น้อยให้ไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ถือบัตร โดยหลังจากนี้จะเป็นการพิจารณาจากรายได้ของครอบครัว การเลี้ยงดูของบุตรหลาน และการหลักทรัพย์เป็นหลัก ทำให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จาก 14.5 ล้านคน เหลือเพียง 10 ล้านคน ลดลง 4.5 ล้านคน
ทั้งนี้ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ได้เตรียมการเสนอปรับเกณฑ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรคนจน ต่อของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ จากหลักเกณฑ์เดิมคือ
-ผู้ลงทะเบียนจะต้องมีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป
-ต้องเป็นผู้มีรายได้ ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี
-ต้องมีเงินฝากในธนาคารไม่เกิน 1 แสนบาท
-มีบ้าน ขนาดไม่เกิน 25 ตร.ว. และมีคอนโดไม่กิน 35 ตร.ว.
-มีที่ดินเพื่ออาศัยอยู่เอง ไม่เกิน 1 ไร่ และมีที่ดินเพื่อการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่
หลักเกณฑ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น คือ การพิจารณาจากรายได้ของครอบครัว แทนที่จะพิจารณาเป็นรายบุคคล เนื่องจากเมื่อมีการตรวจสอบจากฐานะของครอบครัวแล้ว พบว่าบางกรณี ลูก-หลาน ที่ไม่มีรายได้ ทำการลงทะเบียนและสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่เมื่อมีตรวจสอบแล้ว พบว่าครอบครัวมีฐานะดี ดังนั้นหากผู้ที่ได้รับบัตรสวัสดิการคุณสมบัติไม่ครบ จะต้องถูกคัดชื่อออกไปทันที
โดยจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด คณะกรรมการระดับอำเภอ และคณะกรรมการระดับหมู่บ้าน เข้าตรวจสอบด้วย เพื่อคัดกรองผู้ที่สมควรได้รับบัตรสวัสดิการ คณะกรรมการดังกล่าว จะเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับข้อมูลในพื้นที่ ทำให้การคัดกรองคนเข้าและออก มีความแม่นยำและรวดเร็ว รวมถึงหากพบว่าผู้ที่ได้รับสวัสดิการแห่งรัฐไม่มีหลักเกณฑ์ข้อใดจะต้องถูกชื่อคัดออกทันทีเช่นกัน
ที่มา:www.fastviweuk.com
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " กระทรวงการคลัง เตรียมคัดคนจนไม่จริง ออกจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4.5 ล้านคน "