น่าชื่นชม! มหาเศรษฐีหนุ่มมุสลิม บริจาคทรัพย์สินทั้งหมด ช่วยเหลือคนยากไร้ทั่วโลก

โดยในวันนี้เราจะมาแชร์เรื่องราวอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างมากที่ได้มีเว็บไซต์สำนักข่าวเดอะซัน ออกมารายงานข่าวว่าได้มีชายคนคนหนึ่งที่ชื่อว่า อาลี บาแนต ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 32 ปีจากการต่อสู้กับโรคมะเร็ง โดยมีคำขวัญล้ำค่าจากมะเร็ง ที่ทำให้เขานั้นสามารถเปลี่ยนไปได้ทั้งความคิดและพฤติกรรมของตัวเองจึงได้มีการช่วยเหลืองานสังคมอีกทั้งยกมรดกทั้งหมดให้เป็นการกุศลเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้อีกด้วย

โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 อาลี บาแนต พบว่าตัวเองนั้นป่วยเป็นโรคมะเร็งทำให้เขาสามารถมีชีวิตได้อยู่แค่ 7 เดือน ตัวเขานั้นเป็นมหาเศรษฐีหนุ่มชาวมุสลิมที่อาศัยอยู่ในนครซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยล้นพ้นและครอบครองธุรกิจหลายพันล้านเอาไว้ในมือและถือว่าเป็นอีกหนึ่งบุคคลหนึ่งรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจตั้งแต่อายุเพียงแค่ 20 กว่าปีเท่านั้นเอง

โดยที่ผ่านมานั้นเขาได้ใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือยเต็มไปด้วยความมั่งคั่งกินอยู่หรูหรา แต่แล้วเขาก็ได้รู้ว่าตัวเองป่วยเป็นโรคร้ายเรียกว่าตอนนั้นกลายเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิตแต่ฝันร้ายนั้นก็สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเขาและความคิดของเขาไปได้อย่างสิ้นเชิงด้วยตัวเขา ไม่มองโรคมะเร็งเป็นความเศร้าแต่กลับคิดว่า ในช่วงชีวิตที่เหลือนั้นจะสามารถช่วยโลกใบนี้ให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้นได้อย่างไร

และความคิดที่จะให้โอกาสช่วยเหลือคนอื่นๆ จึงทำให้เขาตัดสินใจขายหุ้นในธุรกิจต่างๆ ที่ทำให้เขาเป็นมหาเศรษฐีและทุกอย่างที่มั่งคั่งไว้ข้างหลัง ก่อนมุ่งหน้าไปยังประเทศคองโกซึ่งเป็นพื้นที่ 1 ที่มีประชากรอยู่อย่างหนาแน่นและขาดแคลนสูงสุดเป็นอันดับโลกโดย เขาไปที่นั่นเพื่อทำความต้องการของเขาเป็นครั้งสุดท้าย

ด้วยเขามุ่งหน้าทำกิจกรรมการกุศลอย่างจริงจังจนกระทั่งเขาเริ่มโปรเจคที่ชื่อว่า MATW หรือ Muslims Around The World มูลนิธิคุ้มครองชาวมุสลิมทั่วโลกโดยเป็นหนึ่งโครงการเพื่อช่วยเหลือชาวมุสลิมซึ่งใช้ทรัพย์สินของตัวเองทั้งหมดในการร่วมกิจกรรมนี้และเปิดโอกาสของชาวโลกที่สามารถให้ช่วยบริจาคให้กับโครงการนี้ผู้ช่วยเหลือผู้ยากไร้ได้

ต่อมาในเดือนตุลาคมปี พ.ศ.2558 เขาได้เริ่มตั้งมูลนิธิ มุสลิมทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือชาวมุสลิมที่ยากจนและด้อยโอกาสในประเทศแอฟริกาและเดินทางไปอาศัยอยู่ที่หน้า 2 สัปดาห์เพื่อพบปะกับเด็กและครอบครัวท้องถิ่นและรับรู้ว่าเขานั้นมีความยากจนเพียงใด องค์กรของเขาได้รับการสนับสนุนในการสร้างสุเหร่าโรงพยาบาลและโรงเรียนในแอฟริกา โดยเงินบริจาคที่เข้ามายังมูลนิธินั้นมีจำนวนกว่า 40 ล้านบาทแล้ว และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาเขาสามารถลงทุนได้มากกว่า 32 ล้าน แม้ว่าเขานั้นอาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายเพียงใดแต่จากการทำกิจกรรมในครั้งนี้ก็ทำให้เขานั้นสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ และสุดท้ายเขาก็เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งในวัย 32 ปี และได้มอบทรัพย์สินส่วนตัวอุทิศให้กับงานกุศลทั้งหมด

ที่มา: hunsa.siamtodaynews.com