
อิสราเอลสั่งแบนการประกาศเสียงอะซาน จากมัสยิดอิบรอฮีมี ในเมืองเฮบรอน เขตยึดครองเวสต์ แบ๊งค์ เกือบ 50 ครั้งในช่วงเวลาเพียงเดือนเดียว
ยูซุฟ อีดาอีส เจ้าหน้าที่กระทรวงกิจการกุศลและศาสนา เปิดเผยว่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา มัสยิดอิบรอฮีมี ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ถูกทางการอิสราเอลห้ามประกาศเสียงอะซานถึง 47 ครั้ง โดยชาวยิวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่โดยผิดกฎหมาย ได้ร้องเรียนทางการว่าเป็นเสียงที่น่ารำคาญ
อีดาอีส ได้เรียกร้องให้ประชาคมนานาชาติเข้าแทรกแซงในเรื่องนี้ โดยเพิ่มเติมว่า อิสราเอลได้กระทำทุกวิถีทางเพื่อก่ออันตรายต่อมัสยิดสำคัญแห่งนี้ รวมทั้งศรัทธาชนที่มาประกอบศาสนกิจ เพื่อหวังยึดครองมัสยิดที่เป็นสถานที่สำคัญทั้งของศาสนายูดาย และอิสลาม ดังเช่นที่ทำกับมัสยิดอื่นๆ ในเขตเมืองเก่าเฮบรอน
ทั้งชาวยิวและมุสลิมเชื่อว่า มัสยิดแห่งนี้เป็นที่ฝังศพของนบีอิบรอฮีม โดยยิวเรียกสถานที่นี้ว่า Tomb of the Patriarchs (ที่ฝังศพของสังฆราชา) ในขณะที่มุสลิมเรียกว่า มัสยิดอิบรอฮีมี ภายในมีการแบ่งส่วนออกเป็นที่ปฏิบัตศาสนกิจของศาสนายูดาย กับที่ละหมาดของมุสลิม
ในปี 1994 นายบารุช โกลด์สไตน์ ชาวยิวหัวรุนแรงที่เกิดในสหรัฐ ฯ ได้บุกเข้าไปในมัสยิดแห่งนี้และสังหารชาวมุสลิมปาเลสไตน์ที่กำลังละหมาดรวม 29 คน
ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวกลุ่มหัวรุนแรงราว 800 คน อาศัยอยู่ในเขตเมืองเก่าเฮบรอน โดยได้รับการคุ้มกันอย่างดีจากทหารอิสราเอล ในขณะที่มีชาวปาเลสไตน์กว่า 30,000 คนอาศัยอยู่ในบริเวณรอบๆ
อิสราเอลยึดครองเขตเวสต์ แบ๊งค์ ตั้งแต่ปี 1967 โดยมีชาวยิวกว่า 600,000 คนอาศัยอยู่ในเขตตั้งถิ่นฐานใหม่ในเขตยึดครองเวสต์ แบ๊งค์ และเยรูซาเล็มตะวันออก เพื่อหวังผนวกดินแดนปาเลสไตน์อย่างผิดกฎหมาย
ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ผู้อพยพชาวยิวที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่ทั่วเวสต์ แบ๊งค์ ถือเป็นผู้ละเมิดกฎหมาย โดยเฉพาะกฎบัตรข้อ 49 ของสนธิสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 4 ที่ระบุว่า “ผู้ครอบครองต้องไม่เนรเทศ หรือเคลื่อนย้ายบางส่วนของพลเรือนของตน เข้ามาอยู่อาศัยในดินแดนที่ยึดครองอยู่”
ในทางปฏิบัติ กองกำลังอิสราเอลและผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวมักจะทำร้าย หรือคุกคามชาวปาเลสไตน์ จนถึงการสังหารประชาชน รื้อทำลายบ้านเรือน วางยาพิษปศุสัตว์ ทำลายทรัพย์สิน อาทิ พืชผลของชาวปาเลสไตน์ รวมทั้งกระทำความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ต่อชาวปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่
https://www.alaraby.co.uk/english/news/2018/12/3/israel-silenced-hebron-mosque-call-to-prayer-47-times
http://www.alaraby.co.uk
ที่มา: ทางนำ
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " อิสราเอลสั่งระงับเสียงอะซานมัสยิดในเมืองเฮบรอน 47 ครั้งใน 1 เดือน "