กษัตริย์จอร์แดนจะทวงคืนแผ่นดินที่ให้อิสราเอลเช่าตามข้อตกลง ปี 1994

https://www.aljazeera.com/news/2018/10/king-jordan-reclaim-land-leased-israel-1994-deal-181021135808791.html

http://www.aljazeera.com

ทางการจอร์แดนแจ้งอิสราเอลว่า มีความประสงค์จะเรียกคืนพื้นที่ 2 แห่ง ที่ขณะนี้อยู่ในการถือสิทธิ์ของอิสราเอล ภายใต้สนธิสัญญาสันติภาพ ที่ลงนามร่วมกันในปี 1994 ประกาศดังกล่าวของกษัตริย์อับดุลเลาะฮ์ ที่ 2 แห่งจอร์แดนครั้งนี้ สร้างความยินดี แก่นักรณรงค์ และกลุ่มประชาสังคม ที่ต่อต้านข้อตกลงนี้ตลอดมา

ในปี 1994 มีการทำข้อตกลงกันว่า อิสราเอลจะเช่าที่ดินขนาด 405 เฮคเตอร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ทำเกษตรกรรม ที่อยู่ทางส่วนใต้ของพรมแดนอิสราเอลที่ติดกับจอร์แดน บริเวณนี้เรียกว่า al-Ghumar และอีกพื้นที่หนึ่งคือ ส่วนเล็กๆ ที่เรียกว่า al-Baqura ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณที่แม่น้ำจอร์แดนและแม่น้ำยาร์มู๊คไหลมาบรรจบกัน

ปัจจุบันพื้นที่ทั้ง 2 แห่งอยู่ภายใต้การบริหารโดย ระบอบปกครองพิเศษ ซึ่งระบุในสนธิสัญญาสันติภาพดังกล่าว โดยอิสราเอลยอมรับว่าจอร์แดนยังคงมีอธิปไตยเหนือดินแดนดังกล่าว ในขณะที่อิสราเอลเป็นเอกชนที่ถือสิทธิ์ครอบครอง

ดินแดนดังกล่าวอุดมด้วยน้ำ ในปัจจุบันใช้เป็นที่เพาะปลูกของเกษตรกรชาวอิสราเอล หลังจากมีการลงนามสัญญาเช่า 25 ปี โดยระบุว่า เมื่อใกล้จะครบสัญญาต้องแจ้งล่วงหน้า 12 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้มีการขยายเวลาเช่าโดยอัตโนมัติ โดยกำหนดดังกล่าว ผ่านมาเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2561

กษัตริย์อับดุลเลาะฮ์ ที่ 2 ทรงกล่าวกับสำนักข่าวทางการ Petra ว่า พระองค์ได้แจ้งเรื่องการยุติสัญญาเช่ากับทางการอิสราเอลแล้ว ตามข้อตกลงสันติภาพดังกล่าว พระองค์ยังกล่าวว่า ดินแดนทั้ง 2 แห่งเป็นความสำคัญสุดยอดของพระองค์ตลอดมา การตัดสินใจยุติข้อตกลงในภาคผนวกของสนธิสัญญาสันติภาพ มาจากความกระตือรือร้นที่จะดำเนินการในสิ่งที่จำเป็น สำหรับประเทศ และประชาชนชาวจอร์แดน และ ดินแดน อัล–บากูรอ และอัล–คูมาร์ เป็นของชาวจอร์แดนตลอดมา และจะยังคงเป็นตลอดไป

หลังจากสื่อรายงานการประกาศของกษัตริย์จอร์แดน นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู กล่าวว่า อิสราเอลจะขอเจรจาเกี่ยวกับทางเลือก และการต่ออายุสัญญากับจอร์แดน โดยสัญญาจะหมดอายุจริงๆ ในอีก 12 เดือนข้างหน้า

ยังไม่มีการระบุแน่นอนว่า ดินแดนดังกล่าวจะถูกส่งคืนมาเป็นของจอร์แดนด้วยวิธีใด และเมื่อไหร่ ดินแดนทั้ง 2 แห่งอยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอลตั้งแต่ปี 1948

นักสังเกตการณ์กล่าวว่า คำประกาศของกษัตริย์จอร์แดนได้รับเสียงตอบรับอย่างพึงพอใจจากชาวจอร์แดนทั่วไป ที่ผ่านมานักรณรงค์ และกลุ่มประชาสังคม เพิ่มความพยายามในการบีบรัฐบาลให้ยุติสัญญาเช่ากับอิสราเอล

ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ ส.ส.จอร์แดน 85 คน ได้ลงนามในหนังสือเพื่อเร่งรัดให้กษัตริย์จอร์แดน เข้าแทรกแซงในเรื่องนี้ เพื่อว่า จะได้บีบรัฐบาลไม่ให้ตกลงต่ออายุสัญญาเช่า

ประชาชนชาวจอร์แดนมีความรู้สึกต่อต้านอิสราเอลอย่างรุนแรง เนื่องจากการไม่ยอมปล่อยการยึดครองปาเลสไตน์ และการการะทำย่ำยีประชาชนชาวปาเลสไตน์อย่างไร้คุณธรรม