
http://www.arabnews.com/node/1404156/world
http://www.arabnews.com
เป่ยจิง – ทางการจีนออกมาปกป้องข่าวที่ว่า มีการจัดตั้งค่ายกักกันชาวมุสลิมอุยกูร์ ในเขตปกครองซินเจียง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยกล่าวอ้างว่าเป็นเพียงมาตรการป้องกันการก่อการร้าย พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศอย่าเชื่อในข่าวลือ และให้เชื่อแต่ข่าวทางการ
สหประชาชาติอ้างอิงข่าวจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ที่ระบุว่า ชาวอุยกูร์ประมาณ 1 ล้านคน รวมทั้งชนกลุ่มน้อยชาวจีน ที่พูดภาษา Turkic ถูกกักกันอยู่ในค่ายปรับทัศนะคติทางการเมืองในเขตซินเจียง
หลังจากออกมาปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับการมีอยู่ของค่ายนี้แล้ว ทางการจีนยังกล่าวย้ำแล้วย้ำอีก ว่า สถานที่ดังกล่าวเป็นเพียงศูนย์ฝึกอาชีพ ซึ่งตั้งขึ้นเพื่อช่วยดึงประชาชนออกจากแนวคิดที่รุนแรง และให้ออกห่างจากกลุ่มก่อการร้าย รวมทั้งทำให้พวกเขากลับมาหลอมรวมกับสังคมหลักได้เหมือนเดิม แต่โครงการนี้กำลังเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายนอกประเทศจีน โดยเฉพาะจากสหรัฐ ฯ และกลุ่มสิทธิมนุษยชน
นายหวัง ยี รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กล่าวในที่ประชุมสื่อว่า ทางการจีนคาดหวังว่าเพื่อนสื่อ และเพื่อนต่างชาติ จะพิจารณาในข้อมูลนี้ และสรุปสถานการณ์ตามที่ทางการจีนได้แถลงไป
เขายังได้กล่าวขณะยืนอยู่ใกล้ นาย Heiko Maas รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมัน ขณะอยู่ในห้องแถลงข่าวว่า ไม่ควรเชื่อถือในข่าวโคมลอย และข่าวที่เล่าลือกันปากต่อปาก และว่า เป็นเรื่องที่ชัดเจนว่า ฝ่ายปกครองในซินเจียงทราบดีที่สุดว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นที่นั่น ไม่ใช่คนอื่นหรือองค์กรที่เป็นบุคคลที่ 3
นักวิจารณ์กล่าวว่า ทางการจีนกำลังพยายามที่จะคัดกรองชนกลุ่มน้อยในซินเจียง และปราบปรามการปฏิบัติตามศรัทธาทางศาสนา ซึ่งขัดแย้งกับอุดมคติตามแบบลัทธิคอมมิวนิสต์ และวัฒนธรรมของชาวจีนเชื้อสายฮั่น ซึ่งเป็นชนส่วนใหญ่ของประเทศ
อดีตผู้เคยถูกกักกันอยู่ในค่าย กล่าวว่า พวกเขาถูกควบคุมตัวเพราะไว้เครายาว หรือสวมผ้าคลุมหน้า ใน 2 – 3 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่รัฐบาลพยายามบีบบังคับชาวอุยกูร์ ทำให้เกิดการต่อต้านขึ้นในเขตซินเจียง และทำให้มีผู้เสียชีวิตไปหลายร้อยคน โดยทางการจีนหวาดกลัวว่า ความคิดแบบอิสลามสุดโต่งจะแพร่หลายมากขึ้นในแคว้นซินเจียงนี้ ถึงขนาดที่ได้มีการจัดวางมาตรการรักษาความปลอดภัยต่างๆ อาทิ การสอดแนมด้วยกล้องวงจรปิด การเก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอ. การจัดคนไปเยือนตามบ้านโดยไม่แจ้งล่วงหน้า และการติดระบบติดตาม จีพีเอส. ในรถยนต์ เป็นต้น
รัฐมนตรี หวัง ยี กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็นทั้งการปราบปราม และการป้องกัน แต่ทางการให้ความสำคัญกับการป้องกันมากกว่า ถ้าป้องกันได้ดี เหตุก่อการร้ายก็จะไม่ขยายหรือก่อรากเหง้า เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการต่อต้านการก่อการร้าย
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมันไม่ได้กล่าวความเห็นในเรื่องของซินเจียงในห้องแถลงข่าว แต่ได้กล่าวในภายหลังว่า เขาได้แสดงความเห็นและตั้งคำถามกับรัฐมนตรี ยี เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ขณะที่อยู่กันตามลำพัง
สัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐสภาเยอรมันได้ถกเถียงกันถึงสถานการณ์ในซินเจียง ซึ่งเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงเบอร์ลิน แสดงความไม่พอใจอย่างมาก และได้ทำการประท้วงอย่างเป็นทางการ ในการแทรกแซงอย่างเห็นได้ชัดของเยอรมัน ต่อกิจการภายในของประเทศจีน
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " จีนปฏิเสธข่าวตั้งค่ายกักกันมุสลิม ว่าเป็นเพียงคำเล่าลือ ขอให้ฟังข่าวจากทางการ "