
รอยเตอร์ – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯระบุในวันพุธ(24ต.ค.) ท้ายที่สุดแล้วมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซาลมาน ต้องแบกรับความผิดชอบต่อปฏิบัติการที่นำไปสู่เหตุสังหาร จามาล คาช็อกกี คอลัมนิสต์คนดังในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียประจำอิสตันบูล
ในความคิดเห็นที่หนักแน่นสุดเท่าที่เคยพูดมา ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับวอลล์สตรีท เจอนัล ว่าเขาก็อยากจะเชื่อคำแก้ต่างของเจ้าชายที่ทรงบอกว่าเจ้าหน้าที่ระดับล่างควรถูกกล่าวโทษต่อเหตุสังหารนักหนังสือพิมพ์รายนี้ แต่เขาบ่งชี้ว่าผู้ที่ต้องรับผิดชอบควรเป็นบุคคลในระดับสูง “เจ้าชายควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างที่นั่น ดังนั้นหากเป็นใครสักคน มันคงจะเป็นพระองค์”
ความคิดเห็นของทรัมป์นับเป็นการถาโถมแรงกดดันเข้าใส่พันธมิตรผู้ใกล้ชิดของเขา ท่ามกลางเสียงคร่ำครวญของโลกต่อการเสียชีวิตของคาช็อกกี และมีขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด จะไปปรากฎตัวที่เวทีประชุมสัมมนาด้านการลงทุนหนึ่งในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งพระองค์มีกำหนดแสดงความคิดเห็นสำคัญที่สุดนับตั้งแต่การเสียชีวิตของคอลัมนิสต์วอชิงตันโพสต์เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม
เหล่านักธุรกิจชั้นนำและบุคคลมีชื่อเสียงทางการเมืองหลายคนถอนตัวจากเวทีประชุมดังกล่าว ต่อกรณีการเสียชีวิตของนักหนังสือพิมพ์ผู้ที่มักวิพากษ์วิจารณ์มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด ผู้ปกครองโดยพฤตินัยของซาอุดีอาระเบีย โดยที่ปรึกษาคนหนึ่งของประธานาธิบดีกล่าวหามกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ดว่า “มือเปื้อนเลือด” อันเป็นคำพูดที่รุนแรงที่สุดที่มาจากปากคนใกล้ชิดของเรเซป ตัยยิป แอร์โดอัน
ริยาดกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของพวกมือปฏิบัติการ “แหกคอก” และบอกว่าเจ้าชายทรงไม่รู้เห็นเกี่ยวกับการตายของคาช็อกกี ซึ่งกระพือเสียงโวยวายจากทั่วโลกและคุกคามความสัมพันธ์ระหว่างริยาดกับวอชิงตัน เช่นเดียวกับประเทศตะวันตกอื่นๆ
สำหรับเหล่าพันธมิตรต่างๆของซาอุดีอาระเบียแล้ว คำถามก็คือพวกเขาเชื่อหรือไม่ว่ามกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด ซึ่งวาดภาพพระองค์เองในฐานะนักปฏิรูป มีส่วนร่วมกระทำผิดในเหตุฆาตกรรมครั้งนี้หรือไม่ อันเป็นข้อสันนิษฐานที่ส.ส.สหรัฐฯหลายคนหยืบยกขึ้นมา
ซาอุดีอาระเบียให้ข้อมูลที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับการตายของคาช็อกกี โดยทีแรกปฏิเสธว่าเขาไม่ได้เสียชีวิต ก่อนต่อมาได้ยอมรับ คาช็อกกี ซึ่งเป็นผู้อยู่อาศัยในสหรัฐฯ เสียชีวิตภายในสถานกงสุล หลังมีเหตุต่อสู้กัน
เมื่อวันอาทิตย์(21ต.ค.) ริยาดเรียกเหตุเสียชีวิตของคาช็อกกีว่าเป็น “ความผิดพลาดใหญ่หลวง” แต่พยายามป้องมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซาลมาน จากวิกฤตที่บานปลายขึ้นเรื่อยๆ โดยบอกว่าพระองค์ไม่มีส่วนรู้เห็น
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของตุรกีบอกว่าคาช็อกกีเข้าไปในสถานกงสุล ก่อนถูกรวบตัวโดยพวกสายลับข่าวกรองซาอุดีอาระเบีย 15 คน ซึ่งบินเข้าไปยังตุรกีด้วยเครื่องบินเจ็ต 2 ลำ ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น
“ความอัปยศทุกอย่างล้วนมุ่งตรงไปยังเจ้าชายซัลมาน สมาชิกทีมสังหารอย่างน้อย 5 คนเป็นมือขวาของเจ้าชายซัลมานและไม่มีใครลงมือโดยปราศจากการรับรู้ของพระองค์” อิลนูร์ เซวิค หนึ่งในคณะที่ปรึกษาของ แอร์โดอัน เขียนลงในหนังสือพิมพ์เยนิ เบอร์ลิค “แม้หากประธานาธิบดีทรัมป์ จะปกป้องเจ้าชายซัลมานต่อสายตาชาวโลก แต่พระองค์คือบุคคลต้องสงสัย ด้วยเลือดของคาล็อกกีเปื้อนพระหัตถ์ของพระองค์”
ที่มา:ผู้จัดการออนไลน์
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ทรัมป์พูดชัดครั้งแรก เจ้าชายซาอุฯต้องรับผิดชอบเหตุสังหาร’คาช็อกกี’ "