
สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการตายนาย จามาล คาชอกกี นักข่าวชาวซาอุดีอาระเบีย ในสถานกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบูลของตุรกี ทั้งเรื่องเจ้าหน้าที่ซาอุฯ 15 คนที่รายงานข่าวก่อนหน้านี้เรียกว่าทีมสังหาร ข่มขู่จะวางยาและลักพาตัวเขาภายในสถานกงสุลซาอุฯ ก่อนที่นายคาชอกกีจะถูกสังหารด้วยการล็อกคอ (chokehold) หลังจากเขาขัดขืน
ก่อนหน้านี้ รัฐบาล ซาอุดีอาระเบียได้ออกมายอมรับเป็นครั้งแรกว่านายคาชอกกีวัย 60 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังเกิดการชกต่อยต่อสู้อย่างไม่คาดคิดกับคนภายในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบีย เมื่อ 2 ต.ค. ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันที่เขาหายตัวไปอย่างลึกลับ หลังจากทางการซาอุฯ ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นมาตลอด แต่ราว 1 ชั่วโมงหลังมีแถลงการณ์เรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ซาอุฯ อีกคนก็อออกมาแก้ว่า นายคาชอกกีเสียชีวิตเพราะถูกล็อกคอ
ล่าสุดของเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียผู้ขอสงานนาม ย้ำเรื่องดังกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ พร้อมแสดงสิ่งที่เขาเรียกว่า เอกสารภายในของหน่วยข่าวกรอง ซึ่งแสดงให้เห็นความคิดที่จะนำตัวผู้ต่อต้าน หรือนายคาชอกกีกลับประเทศ นายอาห์เหม็ด อัล-อัสซิรี รองหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง GIP ส่งทีมเจ้าหน้าที่ 15 นายมานครอิสตันบูลเพื่อโน้มน้าวให้คาชอกกีกลับซาอุดีอาระเบีย เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายขัดแย้งถูกเกณฑ์ไปเข้ากับรัฐบาลฝ่ายศัตรู
เจ้าหน้าที่นายนี้เผยอีกว่า ตามแผนการ ทีมเจ้าหน้าที่อาจกักตัวนายคาชอกกีเอาไว้ที่เซฟเฮาส์นอกอิสตันบูลชั่วระยะเวลาหนึ่ง แล้วจึงปล่อยตัวหากเขายืนกรานไม่กลับซาอุดีอาระเบีย แต่สถานการณ์ไม่เป็นไปตามแผนตั้งแต่แรกเริ่ม ทีมเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทำเกินคำสั่งและนำไปสู่ความรุนแรงอย่างรวดเร็ว
นายคาชอกกีถูกนำตัวไปยังออฟฟิศของกงสุลใหญ่ทันทีที่เดินเข้าไปในสถานกงสุล เพื่อพบกับนาย มาเฮอร์ มูเทรบ หนึ่งทีมสมาชิกทีม 15 คน ซึ่งบอกให้คาชอกกีกลับซาอุดีอาระเบีย แต่นักข่าววัย 60 ปีปฏิเสธและบอกมูเทรบว่ามีคนรอเขาอยู่ข้างนอก และพร้อมที่จะติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตุรกีหากเขาไม่ได้กลับออกไปภายใน 1 ชั่วโมง
นายคาชอกกียังบอกนายมูเทรบว่าเขากำลังละเมิดหนักการทูต และว่า “คุณจะทำอะไรกับผม คุณจะลักพาตัวผมอย่างนั้นหรือ?” นายมูเทรบจึงตอบว่า “ใช่ เราจะวางยาคุณแล้วลักพาตัวคุณ” ซึ่งเจ้าหน้าที่ซาอุฯ ยืนยันกับรอยเตอร์ว่า การข่มขู่นี้ขัดกับเป้าหมายของภารกิจ
หลังได้รับคำตอบนายคาชอกกีจึงโวยวายเสียงดัง ทีมเจ้าหน้าที่ซาอุฯ เริ่มแตกตื่นและพยายามจะควบคุมตัวนายคาชอกกีด้วยการเข้าล็อกคอจากด้านหลังและปิดปากเขาเอาไว้ ทำให้นายคาชอกกีขาดใจตาย “พวกเขาพยายามหยุดนายคาชอกกีไม่ให้ตะโกน แต่เขาตาย” เจ้าหน้าที่ซาอุฯ บอกกับรอยเตอร์ “จุดประสงค์ไม่ใช่การฆ่าเขา”
จากนั้น ทีมเจ้าหน้าที่ข่าวกรองซาอุฯ จึงพยายามปกปิดการกระทำผิด โดยให้หนึ่งในสมาชิกทีมคือนาย มุสตาฟา มาดานี ใส่เสื้อผ้าของนายคาชอกกีแล้วออกจากสถานทูตทางประตูหลัง เพื่อจัดฉากให้เหมือนว่า นักข่าวรายนี้ออกจากสถานกงสุลไปแล้ว แล้วให้สมาชิกอีกคนคือนาย ซาลาห์ ตูไบจี ผู้เชี่ยวชายด้านนิติเวชวิทยากำจัดร่องรอยเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ทั้งหมด ก่อนจะเขียนรายงานเท็จแจ้งเบื้องบนว่าพวกเขาปล่อยนายคาชอกกีไปแล้ว และต้องรีบออกจากตุรกีก่อนจะถูกพบตัว
เจ้าหน้าที่นายนี้บอกกับรอยเตอร์ด้วยว่า ศพของคาชอกกีไม่ได้ถูกหั่นเป็นชั้นๆ แต่ถูกห่อด้วยผ้าก่อนนำขึ้นรถยนต์แล้วนำไปให้ผู้สมรู้ร่วมคิดท้องถิ่นซึ่งเป็นชาวซาอุฯ กำจัด เขายังเผยอีกว่า ผลการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าคาชอกกีถูกทรมานหรือถูกตัดคอตามรายงานข่าวของตุรกี อย่างไรก็ตาม เขาไม่ให้แสดงหลักฐานสนับสนุนผลการสืบสวนของพวกเขาต่ออย่างใด
เมื่อถูกรอยเตอร์ถามว่า เหตุใดรายงานเกี่ยวกับการเสียชีวิตของคาชอกกีจากฝ่ายซาอุดีอาระเบียจึงเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด เจ้าหน้าที่นายนี้ตอบว่า รายงานเบื้องต้นของรัฐบาลมีพื้นฐานจากข้อมูลเท็จที่มีการรายงานในเวลานั้น และเมื่อเป็นที่ชัดเจนว่ารายงานเบื้องต้นเหล่านี้ไม่เป็นความจริง พวกเขาก็เริ่มการสืบสวนภายในและงดออกความเห็นต่อสาธารณะเพิ่มเติมทันที
ทั้งนี้ ทีมเจ้าหน้าที่ทั้ง 15 นายถูกทางการซาอุดีอาระเบียควบคุมตัวและกำลังถูกสืบสวน รวมทั้งผู้ต้องสงสัยท้องถิ่นอีก 3 ราย และมีคำสั่งไล่ออกเจ้าหน้าที่ระดับสูงในสำนักงานข่าวกรอง 5 คน รวมทั้ง นายอาห์เหม็ด อัล-อัสซิรี รองหัวหน้าสำนักงานข่าวกรอง และนายซาอุด อัล-คาห์ตานี ที่ปรึกษาอาวุโสของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานด้วย
www.thairath.co.th
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ซาอุฯเผยแผนอุ้ม ‘คาชอกกี’ ก่อนล็อกคอจนตายคากงสุล ลั่นไม่ตั้งใจฆ่า!! "