
เอเอฟพี – วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตเรียกร้องวานนี้ (17 ต.ค.) ให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และบริษัทของตระกูล ทรัมป์ เปิดเผยความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับซาอุดีอาระเบีย หลังมีการตั้งข้อสังเกตเรื่อง ‘ผลประโยชน์ทับซ้อน’ จากการที่ ทรัมป์ พยายามปกป้องริยาดกรณีการหายตัวไปของคอลิมนิสต์ชื่อดัง จามาล คาช็อกกี
ตลอดหลายวันมานี้ ทรัมป์ พยายามยกข้ออ้างต่างๆ นานาที่จะไม่กล่าวโทษผู้นำริยาดว่าเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของ คาช็อกกี คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ชาวซาอุฯ ซึ่งพำนักอยู่ในอเมริกาตั้งแต่ปีที่แล้ว
คาช็อกกี เข้าไปที่สถานกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ต.ค. เพื่อทำเรื่องขอจดทะเบียนสมรส และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่วันนั้น
วุฒิสมาชิกเดโมแครต 11 คนได้ร่วมกันลงชื่อในจดหมายเปิดผนึก ขอให้ประธานาธิบดีและบุตรชายทั้งสองคือ อีริค ทรัมป์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ “เปิดเผยข้อมูลธุรกรรมการเงินระหว่างราชอาณาจักรซาอุฯ กับกลุ่มบริษัท ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา” ให้สาธารณชนรับทราบ
หลังสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำทำเนียบขาวเมื่อเดือน ม.ค. ปี 2017 ทรัมป์ ก็ยกหน้าที่บริหารกิจการของ ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน ให้บุตรชายทั้งสองดูแล ในขณะที่ตนเองยังคงเป็นผู้ถือหุ้น
ส.ว.เดโมแครตกลุ่มนี้ต้องการให้ผู้นำสหรัฐฯ และลูกๆ เปิดเผยรายละเอียดในการหารือธุรกิจระหว่างซาอุดีอาระเบียกับ ทรัมป์ ออร์แกไนเซชัน รวมไปถึง ‘ของกำนัล’ ต่างๆ ที่พลเมืองซาอุฯ นำมามอบให้
ทรัมป์ ได้ทวีตยืนยันเมื่อวันอังคาร (16) ว่าตนเอง “ไม่เคยมีผลประโยชน์ทางการเงินกับซาอุดีอาระเบีย (หรือแม้แต่รัสเซีย) และการตั้งข้อสงสัยเช่นนั้นก็เป็นอีกหนึ่ง FAKE NEWS (ซึ่งมีเยอะเสียด้วย)!”
อย่างไรก็ตาม จดหมายของกลุ่ม ส.ว.เดโมแครตได้อ้างถึงตอนที่ ทรัมป์ เคยโอ้อวดขณะหาเสียงเมื่อปี 2015 ว่าตนเองมีความสัมพันธ์แนบแน่นกับราชอาณาจักรซาอุฯ
“ซาอุดีอาระเบียน่ะเหรอ ผมซี้กับพวกเขาทุกคน พวกเขาซื้ออพาร์ตเมนต์ของผม จ่ายเงินตั้ง 40-50 ล้านดอลลาร์” ทรัมป์ กล่าว
ส.ว.กลุ่มนี้อ้างกฎหมายรัฐธรรมนูญอเมริกันมาตราที่ว่าด้วยเรื่องเงินรายได้ (emoluments clause) ซึ่งกำหนดห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรับของขวัญ, เงินค่าตอบแทนการทำงาน, ตำแหน่งงาน หรือบรรดาศักดิ์ใดๆ ก็ตามจากกษัตริย์ เจ้าชาย หรือรัฐบาลต่างชาติ โดยไม่ผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาเสียก่อน
ทรัมป์ ถูกฝ่ายบริหารกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และรัฐแมริแลนด์กล่าวหาว่ารับเงินผิดกฎหมายจากเจ้าหน้าที่ต่างชาติผ่านทางโรงแรม ทรัมป์ อินเทอร์เนชันแนล ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหลวงสหรัฐฯ
ผู้นำรีพับลิกันรายนี้เคยขู่จะลงโทษซาอุดีอาระเบีย ‘สถานหนัก’ หากพิสูจน์ได้ว่า คาช็อกกี ถูกฆ่าในสถานกงสุลจริง แต่ไม่ทันไรก็แบะท่าว่าไม่อยากจะเอาเรื่องเอาราว โดยให้เหตุผลว่าริยาดเป็นพันธมิตรสำคัญและลูกค้าอาวุธรายใหญ่
ที่มา:ผู้จัดการออนไลน์
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ชักจะวุ่น! ส.ว.เดโมแครตจี้ ‘ทรัมป์’ เผยธุรกรรมการเงินกับซาอุฯ-หวั่นมีผลประโยชน์ทับซ้อน "