ประธานาธิบดีตุรกีเดินทางเปิดมัสยิดกลางในเมืองโคโลญจ์ ประเทศเยอรมัน แม้มีหลายกลุ่มจ้องประท้วง

https://www.breitbart.com/london/2018/09/29/erdogan-opens-mega-mosque-funded-by-turkish-govt-cologne-germany/

http://www.breitbart.com

เมื่อวันที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี เรเจป ทายยิป เอร์โดกฺอาน เดินทางไปเมืองโคโลญจ์ ประเทศเยอรมัน เพื่อเปิดมัสยิดกลางแห่งใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากตุรกี และกล่าวกันว่า เป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป โดยพิธีเปิดมัสยิดมีขึ้นเป็นวันสุดท้าย ของกำหนดการเยือนประเทศเยอรมันอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 3 วัน วัตถุประสงค์หลักของการเยือนครั้งนี้ พุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงความสัมพันธ์ที่บาดหมาง และตึงเครียดระหว่างกันมานานราว 2 ปี

การเจรจากับนายกรัฐมนตรีเมอร์เกล เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ผู้นำทั้ง 2 ฝ่ายแสดงความสนใจในการสร้างความใกล้ชิดอย่างระมัดระวัง แต่นางเมอร์เกลย้ำว่า ยังคงมีประเด็นลึกๆ ในด้านสิทธิพลเมือง และเรื่องอื่นๆ ที่เห็นต่างกันอยู่

ผู้ที่ไม่พอใจในประธานาธิบดีตุรกี ราว 10,000 เตรียมจัดการรณรงค์ประท้วงเขาในทุกๆ เรื่อง นับตั้งแต่ การริดรอนด้านสิทธิมนุษยชน การจำกัดเสรีภาพของสื่อ รวมทั้งการปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ด

ในขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีตุรกีรวมตัวกันที่อาคารมัสยิด ที่สร้างอย่างสวยงามในรูปลักษณะของโดม อาคารแห่งนี้ส่วนหนึ่งเป็นที่ตั้งขององค์กร Ditib ซึ่งเป็นองค์กรศาสนาอิสลามของตุรกี

ตำรวจในโคโลญจ์ระบุว่า การรักษาความปลอดภัยครั้งนี้นับเป็นการเกณฑ์ตำรวจมาปฏิบัติหน้าที่ จำนวนมากที่สุดครั้งหนึ่ง โดยมีการอนุญาตให้ประชาชนเข้าร่วมพิธีเปิดราว 5,000 คน ด้วยเหตุผลด้านการรักษาความปลอดภัย

ทั้งนายกเทศมนตรีเมืองโคโลญจ์ และผู้ว่าการรัฐ ได้ถอนตัวออกจากการร่วมในพิธีเปิด หลังจากการวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีตุรกี ขยายตัวมากขึ้น การดูแคลนผู้มาเยือนสะท้อนถึงท่าทีในการต้อนรับที่ไม่เต็มใจ ระหว่างงานเลี้ยงรับรองอย่างเป็นทางการที่จัดขึ้นก่อนหน้านี้ ซึ่งประธานาธิบดีเยอรมัน Frank-Walter Steinmeier เป็นเจ้าภาพ แต่นักการเมืองฝ่ายค้านหลายคนแสดงการคว่ำบาตรไม่ยอมมาร่วมงาน และนางเมอร์เกลก็บังเอิญไม่ปรากฏตัวในงานเลี้ยงด้วย

ความบาดหมางระหว่าง 2 ประเทศรุนแรงขึ้น หลังจากเยอรมันวิจารณ์การกวาดล้างฝ่ายตรงข้ามของผู้นำตุรกี หลังเกิดการรัฐประหารที่ล้มเหลวในปี 2016 ในครั้งนั้นมีการกวาดจับผู้คนจากหลายวงการนับหมื่นๆ คน ความตึงเครียดผ่อนคลายลงในปีนี้ หลังจากทางการตุรกีปล่อยตัวบุคคลระดับสูงผู้ถือสัญชาติเยอรมัน-ตุรกี หลายคน แต่ยังมีอีก 5 คนที่ยังคงถูกขังไว้

มัสยิดกลางแห่งเมืองโคโลญจ์เปิดใช้ตั้งแต่ปี 2017 หลังจากใช้เวลาก่อสร้างนาน 8 ปี และงบการก่อสร้างบานปลายไปเกินกว่าที่กำหนดไว้ ตัวอาคารออกแบบให้มีลักษณะคล้ายดอกตูม ที่กำลังจะขยายกลีบออก และยังมีหออะซาน 1 คู่ สถาบันกิจการศาสนาอิสลามแห่งตุรกี (Ditib) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างมัสยิดนี้ เป็นองค์กรของตุรกีที่บริหารจัดการมัสยิดหลายร้อยแห่งทั่วเยอรมัน และเป็นผู้จ่ายเงินเดือนให้กับอิหม่ามตุรกีที่ประจำอยู่ตามมัสยิดเหล่านั้นด้วย

ที่ผ่านมา มีความสงสัยว่า สมาชิกบางคนของสถาบัน Ditib ทำการสอดแนมชาวตุรกีที่อาศัยอยู่ในเยอรมัน และมีความไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล สื่อเยอรมันเพิ่งรายงานว่า หน่วยข่าวกรองของเยอรมันกำลังพิจารณาให้สถาบันนี้อยู่ภายใต้การเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด