ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันจันทร์, 29 เมษายน 2567

“ดีเอสไอ”แจงเหตุผลไม่รับคดี“บิลลี่”หายตัว ชี้ทำต่อไม่ได้ กสม.เล็งให้แม่บิลลี่ยื่นร้องใหม่

 

อนุกสม.ถกปมดีเอสไอไม่รับคดี “บิลลี่” หายตัวเป็นคดีพิเศษ ด้านดีเอสไอ แจงเหตุผลทำไปต่อไม่ได้ “อังคณา” เชื่อหากทำเต็มที่ไม่เกินความสามารถ เล็งให้แม่บิลลี่ยื่นร้องใหม่ แก้ปัญหาเมียไม่ได้จดทะเบียนจึงเป็นผู้ร้องไม่ได้

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 ก.พ. ที่สำนักคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) คณะอนุกรรมการสิทธิพลเมืองและการเมือง ที่มีนางอังคณา ลีละไพจิตร กรรมการกสม. เป็นประธาน ได้ประชุมพิจารณากรณี น.ส.พิณนภา พฤกษาพรรณ (มึนอ) ภรรยาของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชน แกนนำชาวบ้านกระเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้ร้องเรียนว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไม่รับคดีนายบิลลี่หายตัวไปเมื่อปี 57 เป็นคดีพิเศษ โดยได้เชิญภรรยานายบิลลี่ ตัวแทนดีเอสไอ และผู้แทนกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เข้าหารือ
ทั้งนี้ นางอังคณา กล่าวหลังการประชุมว่าน.ส.พิณนภา รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมหลังดีเอสไอไม่รับเป็นคดีพิเศษ ซึ่งจากการสอบถามตัวแทนดีเอสไอให้เหตุผลว่า สืบสวนเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว ไม่สามารถสรุปเรื่องได้ ทำให้มีผลต่อตัวชี้วัดของดีเอสไอ ประกอบกับน.ส.พิณนภา ไม่ใช่ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของบิลลี่ แต่ถ้าหากพบตัวหรือศพนายบิลลี่ ทางดีเอสไอจึงจะดำเนินคดีต่อได้
อย่างไรก็ตาม ทางดีเอสไอก็จะส่งเอกสารเหตุผลที่ไม่รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษมาให้ ทางกสม.ก็จะได้นำมาศึกษาและสรุป เนื่องจากที่ผ่านมาอนุฯทำเรื่องการสูญหายมาหลายกรณี และเปรียบเทียบการทำคดีบุคคลสูญหายในต่างประเทศด้วย ซึ่งเห็นว่าตามพ.ร.บ.คดีพิเศษ 2547 ดีเอสไอมีอำนาจมากพอสมควรที่จะสืบสวนสอบสวนได้มากกว่านี้ และหากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ จะมีช่องทางที่สามารถ นำตัวผู้กระทำความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ จึงจะมีการทำหนังสือถึงดีเอสไอสอบถามว่า จะมีแนวทางที่จะทำคดีนี้อย่างไร
“วันนี้ดีเอสไอแค่สืบสวน แต่ไม่ได้สอบสวน ดังนั้นเราคิดว่า ถ้าได้ทำงานอย่างเต็มที่ ทั้งสืบสวนและสอบสวนก็ไม่น่าจะเกินความสามารถของดีเอสไอ การที่น.ส.พิณนภาไม่ได้จดทะเบียนสมรสทำให้ดีเอสไอไม่รับเรื่อง เพราะไม่มีภรรยาตามกฎหมายนั้น คิดว่าอาจจะให้มารดานายบิลลี่มาเป็นผู้ยื่นร้องใหม่ หรือมอบอำนาจให้ภรรยานายบิลลี่ดำเนินการจะให้ ซึ่งดีเอสไอก็น่าจะสอบสวนได้แล้ว เพราะกฎหมายให้การรับรอง แต่ก็ยอมรับว่าการจะไปตามหาแม่นายบิลลี่ไม่ใช่เรื่องง่าย” นายอังคณา กล่าว
ด้าน น.ส.พิณนภา กล่าวว่า ถ้าดีเอสไอยื่นมือเข้ามาช่วย ก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยได้ แต่พอทางดีเอสไอปฏิเสธรับเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ ก็รู้สึกเสียใจ ซึ่งจากที่ตนได้พูดคุยกับทางดีเอสไอ เมื่อครั้งที่ได้เข้ามาในพื้นที่ บอกว่าทางดีเอสไออยู่ไกลและไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ซึ่งไม่ชำนาญในพื้นที่ ถ้าตำรวจติดตามคดีนี้ชำนาญในพื้นที่มากกว่า ซึ่งถ้าเป็นเช่นนี้จริงๆ คดีจะไม่มีความคืบหน้า

ที่มา:ข่าวสด

เรื่องที่เกี่ยวข้อง