‘คูเวต’ ไล่ทูตปินส์กลับประเทศหลัง’สถานทูต’ พยายามช่วยแรงงานปินส์จากนายจ้างทารุณ

เรตาโน วิลลา เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ ประจำคูเวต แถลงข่าวที่กรุงคูเวตซิตี ประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา (เอเอฟพี)

รัฐบาลคูเวตมีคำสั่งเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ให้นายเรตาโน วิลลา เอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์ ประจำคูเวต เดินทางกลับประเทศในสัปดาห์นี้ พร้อมทั้งเรียกเอกอัครราชทูตคูเวตประจำฟิลิปปินส์กลับประเทศ หลังเจ้าหน้าที่สถานทูตฟิลิปปินส์พยายามให้ความช่วยเหลือชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานเป็นคนรับใช้ในคูเวต ในเหตุซึ่งกระทรวงต่างประเทศคูเวตระบุว่าเป็นการลักพาตัวลูกจ้างจากบ้านของนายจ้าง

กระทรวงต่างประเทศคูเวตระบุว่าเอกอัครราชทูตฟิลิปปินส์มีเวลา 3 วันที่จะส่งชื่อของชาวฟิลิปปินส์ในคูเวตที่กระทำการ “ลักพาตัว” แรงงานที่ทำงานรับใช้จากบ้านของนายจ้าง และว่าทางกระทรวงยังไม่ได้รับการตอบรับจากสถานทูตฟิลิปปินส์ และว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงฟิลิปปินส์จะตามล่าตัวผู้ที่ละเมิดความมั่นคงของประเทศเพื่อนำตัวมาไต่สวน

ด้านแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์ระบุว่า การตัดสินใจของคูเวตเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก และขัดแย้งกับคำมั่นที่เอกอัครราชทูตคูเวตเคยให้ไว้ระหว่างการหารือกับรับมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ว่าความอยู่ดีมีสุขของชาวฟิลิปปินส์เป็นสิ่งสำคัญสูงสุด

การตัดสินใจของรัฐบาลคูเวตนับเป็นเหตุล่าสุดในความขัดแย้งที่กินเวลา 3 เดือนซึ่งเกิดขึ้นหลังมีรายงานว่าแรงงานชาวฟิลิปปินส์ถูกนายจ้างคูเวตกระทำทารุณ โดยสองประเทศอยู่ระหว่างหารือในข้อตกลงเพื่อปกป้องแรงงานชาฟิลิปปินส์ในคูเวต ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ยกเลิกส่งแรงงานไปยังคูเวตไปก่อนหน้านี้แล้ว

อย่างไรก็ตามรัฐบาลฟิลิปปินส์แถลงขอโทษเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมาต่อเหตุการณ์ซึ่งคูเวตระบุว่าเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตย ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ระบุว่า สถานทูตฟิลิปปินส์จำเป็นต้องยื่นมือเข้าช่วยในสถานการณ์ที่เป็นเรื่องความเป็นความตาย

ทั้งนี้มีแรงงานชาวฟิลิปปินส์ทำงานอยู่ในคูเวตราว 260,000 คนในจำนวนนี้ 65 เปอร์เซ็นต์ทำงานเป็นคนรับใช้ในบ้าน ล่าสุดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ของฟิลิปปินส์เรียกให้แรงงานชาวฟิลิปปินส์ในคูเวตกลับประเทศ หลังพบศพคนรับใช้ถูกแช่ในตู้แช่แข็งในบ้านที่ถูกทิ้งร้างแห่งหนึ่งในคูเวต