
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ว่าสืบเนื่องจากเหตุการณ์คนร้าย 2 คนขับขี่จักรยานยนต์มาดักรอ นายฟาดี เอ็ม. อาร์. อัล-บาสต์ ชาวปาเลสไตน์ วัย 35 ปี แล้วสังหารด้วยการยิงกระหน่ำจนเสียชีวิตบนถนนใกล้กับมัสยิดแห่งหนึ่ง ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น นายอาหมัด ซาฮิด ฮามิดี รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงมหาดไทยมาเลเซีย กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ ว่านายฟาดีประกอบอาชีพวิศวกรไฟฟ้าและมีความรู้ความเชี่ยวชาญอย่างยิ่งในการผลิตจรวด
Mossad agents murdered Palestinian engineer at a mosque in Malaysia. pic.twitter.com/EdEsVqXYlW
— Press TV (@PressTV) April 21, 2018
ขณะที่ผลการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุในเบื้องต้นพบปลอกกระสุน 14 นัด แต่บนร่างของผู้เสียชีวิตมีร่องรอยจากการถูกยิง 10 นัด และมีร่องรอยกระสุนปืนหลายนัดอยู่บนกำแพง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวสอบวิถีกระสุน ด้านพล.ต.ท.มาซาลาน ลาซิม ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจกรุงกัวลาลัมเปอร์ กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นประเด็นระหว่างประเทศ” ซึ่งจะต้องมีการสืบสวนอย่างละเอียด แต่สวงวนท่าทีในการให้ข้อมูลเพิ่มเติม เว้นเพียงว่าหน่วยงานด้านนิติเวชกำลังชันสูตรศพ
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสซึ่งปกครองฉนวนกาซา ออกแถลงการณ์ว่านายฟาดีเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญ และเป็นนักวิทยาศาสตร์ซึ่งมีความเชี่ยวชาญและมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งใน “งานหลายด้าน” และเข้าร่วมการประชุมระดับนานาชาติที่เกี่ยวข้องกับพลังงานเป็นประจำ แต่แถลงการณ์ของกลุ่มฮามาสไม่ได้ระบุถึงอิสราเอลอย่างตรงไปตรงมา โดยใช้คำว่า “เป็นการลอบสังหารโดยฝีมือของพวกทรยศ” กระนั้นนายอิสมาอิล ฮานิเยาะห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส กล่าวพาดพิงโดยตรงถึงหน่วยสืบราชการลับของอิสราเอล หรือ “มอสสาด” ว่าเป็นผู้ลงมือ และกลุ่มฮามาสจะมี “มาตรการตอบโต้” แต่รัฐบาลอิสราเอลยังไม่แสดงท่าทีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " มาเลเซียชี้คดีฆ่าวิศวกรฮามาสเป็น ‘เรื่องระหว่างประเทศ’ "