ประชุมสุดยอดสันนิบาตอาหรับประเด็นหลักเกี่ยวกับ ซีเรีย – อิหร่าน

ดะห์ราน – ผู้นำประเทศสมาชิกสันนิบาตอาหรับ ยกเว้น ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย ร่วมประชุมสุดยอดที่จัดขึ้น ณ เมืองดะฮ์ราน ราชอาณาจักรซาอุ ฯ ในวันที่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา หลังจากมหาอำนาจ 3 ประเทศโจมตีซีเรีย และเกิดความตึงเครียดที่ทวีขึ้นระหว่างราชอาณาจักรซาอุ ฯ กับสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน

ในการประชุมสุดยอด 22 ประเทศสมาชิกสันนิบาตอาหรับครั้งนี้ ซาอุ ฯ เร่งแสดงท่าทีอันแข็งกร้าวต่ออิหร่าน ในขณะที่ทั้งสองประเทศยึดโยงอยู่กับการทำสงครามตัวแทนในประเทศซีเรีย และประเทศเยเมน ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของราชอาณาจักรซาอุ ฯ รวมทั้งอยู่เบื้องหลังกลุ่มที่ขัดแย้งกันในอิรัก และเลบานอน

การประชุมสุดยอดสันนิบาตอาหรับจัดขึ้นเพียง 24 ชั่วโมงหลังจากซีเรียถูก 3 ชาติรุมโจมตี โดยอ้างว่า เพื่อตอบโต้การที่ซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีกลุ่มกบฏที่หลบซ่อนอยู่ในเมือง Ghouta ในขณะเดียวกัน ซาอุ ฯ และการ์ต้า ที่ดูเหมือนจะสนับสนุนการโจมตีดังกล่าว กลับไม่ลงรอยกันมาตั้งแต่ปีก่อน โดยซาอุ ฯ กล่าวหากาต้าร์ว่าสนับสนุนกลุ่มสุดโต่ง และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอิหร่าน

สันนิบาตอาหรับก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1945 แต่ที่ผ่านมา ผลของการประชุมสุดยอดแทบไม่มีผลในทางปฏิบัติ โดยครั้งล่าสุดที่ออกมาตรการ คือในปี 2011 ที่มีมติให้ระงับสมาชิกภาพของซีเรีย เนื่องจากบทบาทของรัฐบาลซีเรียในการทำสงคราม ซึ่งปัจจุบันซีเรียยังคงถูกระงับการเป็นสมาชิก

ในครั้งนี้ กษัตริย์ซัลมานทรงนั่งเป็นประธานในการประชุม โดยมีการหารือหลักๆ ที่เกี่ยวกับประเทศซีเรีย ทั้งนี้ สงครามในซีเรียนับเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงที่สุดในภูมิภาค ซึ่งซาอุ ฯ และพันธมิตรหนุ่นหลังกลุ่มกบฏซีเรีย ให้ต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลซีเรียที่หนุนหลังโดยอิหร่าน และเฮสบุลเลาะฮ์

เมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา ซาอุ ฯ ประกาศสนับสนุนการโจมตีซีเรียอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศการ์ต้า ก็ทวีตสนับสนุนเช่นกัน

ประเทศบนอ่าวอาหรับ ได้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือซีเรีย แต่ไม่ยอมให้สถานะผู้ลี้ภัยอย่างเป็นทางการแก่ผู้อพยพซีเรีย และแม้ชาติอาหรับต่างๆ จะแสดงการประณามต่อข้อสงสัยว่า รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมี แต่ในที่ประชุมก็มิได้เรียกร้องให้ ประธานาธิบดีอัสซาด ลงจากตำแหน่ง ทั้งมกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน ยังเคยกล่าวว่า อัสซาดจะยังคงอยุ่ในตำแหน่งต่อไป

อีกปัญหาหนึ่งที่มีการถกเถียงกันในที่ประชุมครั้งนี้ คือ การที่สหรัฐ เตรียมย้ายสถานทูตเข้าไปตั้งในกรุงเยรูซาเล็ม โดยที่ประชุมผู้นำรัฐสภาประเทศอาหรับ จัดขึ้นที่กรุงริยาดฮ์ เมื่อสัปดาห์ก่อน มีความเห็นร่วมกันในการพยายามหยุดยั้งการย้ายสถานทูต และมีมติประณามการตัดสินใจรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล

อย่างไรก็ตาม มกุฎราชกุมาร บิน ซัลมาน แสดงท่าทีที่ตรงกันข้าม ในระหว่างที่พระองค์เสด็จเยือนสหรัฐ ฯ เมื่อเร็วๆ นี้ โดยทรงให้สัมภาษณ์สื่อแอตแลนติค ว่า ทั้งอิสราเอล และปาเลสไตน์มีสิทธิเหนือแผ่นดินของตนเอง และว่า ราชอาณาจักรซาอุ ฯ และอิสราเอล มีผลประโยชน์ร่วมกันหลายอย่าง และหากเกิดมีสันติภาพขึ้น ก็จะทำให้ผลประโยชน์ระหว่างอิสราเอล กับประเทศสมาชิก GCC เพิ่มทวีขึ้นอย่างมากด้วย

ราชอาณาจักรซาอุ ฯ ไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับรัฐอิสราเอล