ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวใช้ไฟโจมตีมัสยิดในเวสต์แบงค์

ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวได้ก่อเหตุโจมตีมัสยิด Nablus ด้วยไฟ พร้อมพ่นข้อความต่อต้านชาวอาหรับ และชาวมุสลิม

กลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิว ได้บุกโจมตีมัสยิดที่ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Nablus ในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ พร้อมพ่นข้อความต่อต้านชาวอาหรับ และชาวมุสลิม

“กลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานโจมตีเมือง Aqraba [ทางใต้ของ Nablus] และจุดไฟเผาประตูมัสยิด Al-Sheikh Saada” Yousef Diriya นักเคลื่อนไหวในท้องถิ่นกล่าวกับสำนักข่าว Anadolu

“พวกเขาพ่นข้อความในภาษาฮิบรู ต่อต้านชาวอาหรับและมุสลิมรวมทั้งข้อความ ‘ชาวอาหรับจะพบกับความตาย’ บนผนังของมัสยิด” เขากล่าว

Diriya กล่าวอีกว่าการเฝ้าระวังของประชาชนในพื้นที่ได้ช่วยดับไฟก่อนที่มันจะลุกลาม

ประธานาธิบดี Mahmoud Abbas กล่าวย้ำถึงการเรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศให้การคุ้มครองชาวปาเลสไตน์ และสถานที่สำคัญทางศาสนา พร้อมทั้งเรียกร้องให้องค์กรระหว่างประเทศทำเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ก่อการร้ายจะต้องได้รับการลงโทษ โดยเขาอ้างถึงกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิว

“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้ตั้งถิ่นฐานเผามัสยิด และโบสถ์ในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครองได้” อับบาสกล่าว

“เหตุการณ์นี้ยืนยันว่าการก่ออาชญากรรมร้ายแรงเหล่านี้เกิดขึ้นโดยผู้ก่อการร้ายที่เข้ามาตั้งถิ่นฐาน … กำลังดำเนินการภายใต้การคุ้มกันของกองทัพอิสราเอล” เขากล่าว

รัฐบาลปาเลสไตน์ใน Ramallah กล่าวประณามการโจมตีด้วยเช่นกัน พร้อมระบุว่าอิสราเอลเป็นผู้ “สนับสนุนการก่อการร้ายแบบผู้ตั้งถิ่นฐาน”

โฆษกของรัฐบาลอิสราเอลปาเลสไตน์ Yusuf al-Mahmoud กล่าวในแถลงการณ์ว่า “รัฐบาลของ [นายกรัฐมนตรีอิสราเอล] เบนจามิน เนทันนาฮู เป็นหนึ่งในรัฐบาลที่มีส่วนได้ส่วนแบ่งมากที่สุดในอิสราเอล”

ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวยิวประมาณ 40,000 คน อาศัยอยู่ใน และรอบ ๆ เมือง Nablus ในการตั้งถิ่นฐาน และด่านต่าง ๆ กว่า 39 แห่งซึ่งเป็นโอกาสที่ชาวปาเลสไตน์ และทรัพย์สินของพวกเขาจะถูกทำลาย