ยูเอ็นไม่ผ่านมติประณาม สหรัฐ-ชาติพันธมิตรถล่มซีเรีย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ว่า การประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นไปตามคำร้องขอของรัสเซียหลังจากสหรัฐนำชาติพันธมิตรได้แก่ฝรั่งเศสและอังกฤษ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มเป้าหมายจำเพาะคือคลังแสงอาวุธเคมี ศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์และศูนย์บัญชาการ ได้รับความเสียหาย อันเนื่องจากกองทัพซีเรียถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชน

นายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติควรลงมติตามร่างเสนอของรัสเซียว่าด้วยการประณามการกระทำอันรุกรานของสหรัฐและชาติพันธมิตรในปฏิบัติการโจมตีซีเรีย และเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรยับยั้งการโจมตีอีกต่อไป

ขณะที่นางนิกกี้ ฮาลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า เธอได้หารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐเมื่อเช้านี้ และผู้นำสหรัฐบอกกับเธอว่า หากรัฐบาลซีเรียยังคงใช้แก๊สพิษอีก สหรัฐก็ล็อกเป้าและบรรจุอาวุธไว้พร้อมแล้วสำหรับการใช้ปฏิบัติการทางทหารกับซีเรียอีก

ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้ลงมติไม่ผ่านความเห็นชอบตามมติที่เสนอของรัสเซียว่าด้วยการประณามสหรัฐและชาติพันธมิตรหาว่า ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรสหประชาชาติ โดยที่ประชุมซึ่งมี 15 ชาติ ปรากฏว่า มีเพียงรัสเซีย จีนและโบลิเวีย 3 ชาติเท่านั้นที่ลงมติเห็นชอบ อีก 8 ชาติลงมติไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง 4 ชาติ ทั้งนี้ มติใดๆก็ตามของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจะต้องได้รับความเห็นชอบอย่างน้อย 9 เสียง และต้องไม่มีการใช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต้ของ 5 ชาติสมาชิกถาวรได้แก่รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐ.