โรงแรมในสวิส ฯ ติดป้ายห้ามยิวลงสระเว้นแต่จะต้องชำระล้างร่างกายก่อน

https://www.rt.com/news/399668-swiss-hotel-jewish-signs/

http://www.rt.com

รูธ โธมาน (Ruth Thomann) เจ้าของที่พัก Paradies Apartment House ใน Arosa ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถูกกล่าวหาว่าเป็นพวกต่อต้านคนเชื้อชาติยิว หลังจากที่เธอติดป้ายกฎระเบียบให้ชาวยิวที่มาใช้สระว่ายน้ำ ต้องล้างตัวให้สะอาดก่อนลงสระ และหลังขึ้นจากสระ

ในป้ายดังกล่าวระบุว่า “เรียน ลูกค้าชาวยิว ขอความกรุณาล้างตัวก่อนลงสระ และหลังขึ้นจากสระ หากไม่ทำตามกฎระเบียบ ทางโรงแรมมีความจำเป็นต้องห้ามพวกคุณใช้สระว่ายน้ำ”

ในอีกป้ายประกาศเตือนแผ่นหนึ่ง เขียนว่า “เรียน ชาวยิวที่เป็นแขกของโรงแรม พวกคุณได้รับอนุญาตให้ใช้ตู้เย็นได้ ระหว่างเวลา 10:00 -11:00 และ 16:30-17:30 หวังว่าคงเข้าใจว่า ทีมของเราไม่ต้องการถูกรบกวนตลอดเวลา”

หลังจากมีผู้ถ่ายภาพป้ายเตือนทั้งสองไปเผยแพร่ สื่อ Algemeiner ได้มาสอบถามเจ้าของโรงแรม ซึ่งเธออธิบายว่า ที่ติดป้ายให้ชาวยิวต้องอาบน้ำก่อนลงสระ เพราะเคยมีกรณีที่ชาวยิวลงสระทั้งเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ โดยไม่ล้างตัว และเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำ ส่วนในกรณีกำหนดเวลาให้ใช้ตู้เย็น เป็นเพราะชาวยิวที่เคร่งครัดบางคนเตรียมอาหารโคเช่อร์มา และฝากไว้ที่ตู้เย็นในครัวของโรงแรม จึงต้องตั้งกฎให้มาเปิดตู้เย็นได้ภายในเวลาที่กำหนด เพื่อมิให้เป็นการรบกวนการทำงานของพนักงานในครัว

รองรัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล ได้ประณามการติดป้ายประกาศกฎระเบียบดังกล่าว โดยว่าเป็นกรณีที่แสดงถึงการต่อต้านคนเชื้อชาติยิวอย่างรุนแรง และถึงขนาดที่เธอควรจะถูกจับไปดำเนินคดีอาญา แต่นางรูธ ออกมาปฏิเสธว่าเธอมิได้ต่อต้านคนเชื้อชาติยิวแต่อย่างใด โดยที่พักของเธอมีชาวยิวมาพักตลอดการทำธุรกิจ 40 ปีที่ผ่านมา และเธอคงไม่ต้อนรับลูกค้าชาวยิว หากเธอมีปัญหาในเรื่องการต่อต้านเชื้อชาติ

หลังจากมีการเผยแพร่เรื่องนี้ มีการตั้งเฟสบุ๊กขึ้นเพื่อล่ารายชื่อร้องเรียนโรงแรมดังกล่าว และมีผู้เข้ามาลงชื่อแล้วประมาณ 500 ราย

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกค้าชาวยิวได้รับการต้อนรับอย่างลบหลู่เกียรติ จากโรงแรมในยุโรป เมื่อตุลาคม 2016 โรงแรมที่อยู่ทางตอนใต้ของเยอรมัน ถูกนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลกล่าวหาว่า ยกเลิกการจองเนื่องจากที่เขาเป็นชาวยิว หลังจากนั้น มีการกระจายข่าวออกไปในวงกว้าง จนกระทั่งเกิดความเข้าใจผิดว่า โรงแรมดังกล่าว ไม่รับลูกค้าจากอิสราเอล ซึ่งทางโรงแรมออกมากล่าวภายหลังว่า มีความเข้าใจผิดทางด้านการแปลภาษาเกิดขึ้น ทำให้ทางโรงแรมยกเลิกการจอง จนเป็นที่มาของความขัดแย้งดังกล่าว