
เมื่อวานนี้ (23) กระทรวงการคลังสหรัฐฯเปิดเผยข้อกล่าวหาต่อชาวอิหร่าน 9 คนร่วมถึงการคว่ำบาตรบุคคล 10 คนและบริษัท Mabna Institute ซึ่งพวกเขากล่าวหาว่าแฮกมหาวิทยาลัยหลายร้อยแห่งในนามของหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ บาห์รัม กาสเซมี ระบุว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง
“อิหร่านประณามการกระทำอันยั่วยุ ผิดกฎหมาย และไม่มีเหตุมีผลของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอีกสัญญาณของการเป็นปฏิปักษ์และความเกลียดชังของผู้นำสหรัฐฯต่อประชาชนชาวอิหร่าน” เขากล่าวในถ้อยแถลงบนเว็บไซต์กระทรวง
“สิ่งเหล่านี้จะไม่ขัดขวางพัฒนาการทางวิทยาศาสตร์ของชาวอิหร่าน”
สองผู้ก่อตั้งบริษัท Mabna Institute โกแลมเรซา ราฟัตเนจัด วัย 38 ปี และ อีห์ซาน โมฮัมมาดี วัย 37 ปีอยู่ในหมู่ชาวอิหร่าน 9 คนที่ถูกตักข้อกล่าวหาในนิวยอร์กและถูกสหรัฐฯอายัดทรัพย์สิน
นับตั้งแต่ปี 2013 Mabna Institute ทำการเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ 144 แห่ง กระทรวงการคลัง ระบุ และมหาวิทยาลัยอีก 176 แห่งใน 21 ประเทศ
ลูกจ้างและพนักงานสัญญาจ้างของ Mabna Institute มีส่วนเกี่ยวข้องในการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและข้อมูลจากมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯและมหาวิทยาลัยต่างประเทศหลายร้อยแห่งเพื่อผลประโยชน์ทางการเงินส่วนตัว” กระทรวงฯ ระบุ
“การเจาะระบบเหล่านี้ส่วนใหญ่ จำเลยทำตามคำสั่งของรัฐบาลอิหร่านและโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยพิทักษ์การปฏิบัติอิหร่าน” รอด โรเซนสไตน์ รองอัยการสูงสุด กล่าว
กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ คณะกรรมการควบคุมพลังงานส่วนกลางของสหรัฐฯ บริษัทเอกชานหลายสิบแห่ง และองค์กรนอกภาครัฐเช่น กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติก็ตกเป้าหมายเช่นกัน
จีออฟฟรี เบอร์แมน อัยการเขตเซาเทิร์นดิสทริคท์ของนิวยอร์ก กล่าวว่า ชาวอิหร่านกลุ่มนี้ทำการโจมตีเพื่อขโมยรหัสผ่านขากบัญชีอีเมล ซึ่งเขาเรียกว่าเป็นหนึ่งในแผนการแฮกโดยมีรัฐสนับสนุนครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการเปิดเผย
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปี 2017 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯใช่ท่าทีแข็งกร้าวต่ออิหร่านและประณามข้อตกลงประวัติศาสตร์ที่เตหะรานบรรลุกับชาติมหาอำนาจเพื่อควบคุมโครงการนิวเคลียร์
เมื่อเดือนมกราคม ทรัมป์กล่าวว่า ข้อตกลงปี 2015 ฉบับนี้ต้องถูกแก้ไขภายในวันที่ 12 พฤษภาคม มิเช่นนั้นสหรัฐฯจะถอนตัวออกจากข้อตกลง
ที่มาของเนื้อหา:mgronline.com
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " อิหร่านจวกสหรัฐฯ กล่าวหาอยู่เบื้องหลัง “แผนแฮกข้อมูลขโมยทรัพย์สินทางปัญญา” "