
เจดดะฮ์ – โมฮัมเหม็ด บิน อับดุล การีม อัล-อิสซา เลขาธิการสันนิบาตโลกมุสลิม (MWL) และประธานองค์การฮาลาลอิสลามนานาชาติ (International Islamic Halal Organization) ทำข้อตกลงกับประเทศญี่ปุ่น ในการเป็นผู้จัดบริการอาหารฮาลาลแต่เพียงผู้เดียวในประเทศญี่ปุ่น และโดยเฉพาะการจัดบริการอาหารที่ได้รับการรับรองฮาลาล ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020
บุคคลสำคัญฝ่ายญี่ปุ่นที่มาร่วมในพิธีลงนาม อาทิ มิตซุฮีโร่ มิยาโกชิ ที่ปรึกษาพิเศษของนายกรัฐมนตรี เจ้าชายฮิโรโยชิ สมาชิกราชวงศ์ของญี่ปุ่น คณะผู้แทนจากศูนย์อิสลาม ผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่น
ข้อตกลงดังกล่าวเป็นความร่วมมือกับรัฐบาลญี่ปุ่น และให้สิทธิ MWL ในการกำหนดเกี่ยวกับอาหารฮาลาลและบริการที่มีมาตรฐานสูง ทั้งนี้ จะให้สิทธิ์ในการรับรองผลิตภัณฑ์และบริการตามมาตรฐานฮาลาล และสุขอนามัย ก่อนที่จะถึงมือผู้บริโภค รวมทั้งจะให้สิทธิ์การเป็นผู้ออกใบรับรองฮาลาลให้กับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตโดยชุมชนมุสลิมในญี่ปุ่น หรือที่จะส่งออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอาหรับและประเทศมุสลิม
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เพิ่งริเริ่มเกี่ยวกับตลาดฮาลาล แต่กลับมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและรวดเร็ว เนื่องจากผู้ผลิตกำลังแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในภาคส่วนฮาลาล และยังมีความมุ่งมั่นในการแสวงหาตลาดใหม่ทั้งในประเทศและในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะเมื่อญี่ปุ่นได้รับการกำหนดอย่างเป็นทางการให้เป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก 2020 ซึ่งจะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมุสลิมจากทั่วโลกเดินทางมาเยือน
อัล-อิสซา กล่าวย้ำถึงความสำคัญในความร่วมมือระหว่างสันนิบาติโลกมุสลิม กับประเทศญี่ปุ่น และยังได้กล่าวแสดงความชื่นชมญี่ปุ่นในฐานะประเทศที่มีความกลมเกลียว และการอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี ในระหว่างศาสนิกชนต่างนิกาย ต่างศาสนาและชาติพันธุ์ ในระดับสูงสุด ทั้งยังปราศจากความสุดโต่ง ในขณะที่ชาวญี่ปุ่นยังมีความสำนึกถึงคุณค่าของมนุษย์ และมีศีลธรรมที่ฝังลึกในตัวตนอีกด้วย
ดร.โนกะ มิยาจิม่า ผู้บริหารองค์กรไม่หวังผลกำไร ได้กล่าวยกย่องการลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ว่าเป็นกิจกรรมแห่งประวัติศาสตร์ และเป็นการเพิ่มศักยภาพแก่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งยังแสดงความขอบคุณและชื่นชมผลงานที่อุทิศแก่สังคมของ MWL รวมทั้งได้อวยพรให้เกิดความร่วมมือในโครงการฮาลาลมากยิ่งกว่านี้ในอนาคต
สันนิบาตมุสลิมโลกมีบทบาทสูงในการเพิ่มความตระหนักรู้แก่ชุมชนมุสลิมในญี่ปุ่น และในโลกอิสลาม และยังส่งเสริมความกลมเกลียวในหมู่ประชาคมที่ไม่ได้เป็นมุสลิมอีกด้วย
ก่อนหน้าพิธีลงนามความร่วมมือ อัล-อิสซา เดินทางไปร่วมในพิธีรำลึกครบรอบ 7 ปี เหตุการณ์สึนามิเข้าถล่มเมืองเซนได ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 และเยือนโรงเรียนเด็กกำพร้าในเซนได ซึ่งเป็นผู้อุปถัมเด็กกำพร้าที่สูญเสียครอบครัวในสึนามิครั้งนั้นด้วย ทั้งนี้ เขาและคณะได้ไปเยือนพิพิธภัณฑ์ฮิโรชิม่า และได้ชมเอกสารที่เกี่ยวกับการทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองนี้ในสงครามโลกครั้งที่ 2
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ญี่ปุ่นไฟเขียวมอบหมายสันนิบาตโลกมุสลิมจัดอาหารฮาลาลในโอลิมปิก 2020 "