
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้อนรับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ที่ทำเนียบขาว เมื่อวันอังคาร โดยผู้นำสหรัฐกล่าวในช่วงหนึ่งว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับซาอุดีอาระเบียอยู่ในจุดสูงสุดและแข็งแกร่งที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากทั้งสองประเทศมีความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างยอดเยี่ยมและลึกซึ้งในทุกด้าน
US President Donald Trump and the Saudi Arabia's Crown Prince Mohammed bin Salman hold bilateral discussions on various subjects including job creation, arms and technology transfer, and the regional issues pic.twitter.com/sowkFjSdai
— TRT World Now (@TRTWorldNow) March 20, 2018
ทรัมป์กล่าวต่อไปว่า ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่ร่ำรวย และจะใช้ความได้เปรียบนี้สนับสนุนสหรัฐอย่างเต็มกำลังทั้งในรูปแบบของการสร้างงาน และการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐ ซึ่งมีคุณภาพดีที่สุดในโลก นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐกล่าวถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลางโดยรวม ว่าความเป็นเอกภาพภายในภูมิภาคเป็นสิ่งสำคัญ ในขณะที่ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลริยาดกับกาตาร์ ยืดเยื้อตั้งแต่กลางปีที่แล้ว และยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อตกลงหลายเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่อาจเห็นพ้องกันได้อย่างเต็มที่ ระหว่างการเสด็จเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด หรือ “เอ็มบีเอส” ในครั้งนี้ มองในอีกมุมหนึ่งคือแคมเปญสร้างเสริมภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำให้กับมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย พระชนมพรรษา 32 พรรษา ซึ่งทุกฝ่ายเชื่อว่าคือ “ผู้ทรงอำนาจตัวจริง” ในการปกครองซาอุดีอาระเบีย ไม่ว่าจะเป็นการที่ “ซาอุดี อารัมโก” รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานรายใหญ่ที่สุดของซาอุดีอาระเบีย ชะลอแผนการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ทั้งที่ทรัมป์วิ่งเต้นให้มานาน
ขณะเดียวกัน ทำเนียบขาวยังไม่สามารถมอบความเชื่อมั่นให้แก่รัฐบาลริยาดได้ว่า จะมีการแก้ไขเนื้อหาหรือถึงขั้นเพิกถอนกฎหมายที่ผ่านการอนุมัติในสมัยประธานาธิบดีบารัค โอบามา เมื่อปี 2559 ว่าด้วยการอนุญาตให้พลเมืองอเมริกันซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุวินาศกรรม 9/11 เมื่อปี 2544 สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลริยาดได้ จากการที่ผู้ก่อการร้ายในเหตุการณ์ครั้งนั้นส่วนใหญ่ถือสัญชาติซาอุดีอาระเบีย
อนึ่ง เจ้าชายโมฮัมเหม็ดจะทรงประทับอยู่ในสหรัฐถึงช่วงต้นเดือนเม.ย.นี้ โดยพระองค์ทรงมีกำหนดการเสด็จเยือนเมืองใหญ่อีกหลายแห่ง รวมถึงนครนิวยอร์ก เมืองฮุสตันซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันสำคัญของสหรัฐ นครลอสแอนเจลิส และซิลิคอน วัลลีย์.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ทรัมป์ยกย่องซาอุฯ ‘เพื่อนที่ดี’ ของสหรัฐ "