เครื่องบินบังกลาเทศตกที่เนปาล ไฟลุกท่วมดับกว่า50ศพ

สำนักข่าวรอยเตอร์ เอพีและเอเอฟพีรายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ว่า เครื่องบินโดยสารแบบเครื่องยนต์ใบพัด 2 เครื่อง สายการบินยูเอส-บังกลา แอร์ไลน์ส ของบังกลาเทศ บรรทุกผู้โดยสาร 67 คน นักบินและลูกเรือ 4 คน เดินทางจากกรุงธากา ตกลงกระแทกพื้นและระเบิดลุกเป็นไฟ ขณะที่กำลังจะร่อนลงจอดท่าอากาศยานกรุงกาฐมาณฑุ เบื้องต้นยังไม่ทราบสาเหตุ และรายงานความสูญเสียยังสับสน ขณะที่นายมาโนช นิวปาเน โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติเนปาล แถลงว่า มีผู้เสียชีวิตตรงจุดที่เครื่องตก 41 คน และอีก 9 คนเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 แห่งในกรุงกาฐมาณฑุ
   

โฆษกสายการบินยูเอส-บังกลา เผยว่า ในจำนวนผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่อง 67 คน ประกอบด้วยชาวบังกลาเทศ 32 คน ชาวเนปาล 33 คน ชาวจีน 1 คน และชาวมัลดีฟส์ 1 คน แต่ไม่ระบุสัญชาติของนักบินและลูกเรือทั้ง 4 คน

   
ผู้สื่อข่าวเอพีที่รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุเผยว่า ตัวเครื่องบินแตกสลายออกเป็นหลายชิ้นใหญ่ ควันไฟยังลอยกรุ่นออกจากซากขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและอาสาสมัครกำลังสาละวนอยู่กับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วน น.ส.อาแมนดา ซัมเมอร์ ชาวอเมริกันที่ทำงานอยู่ในเนปาล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่เห็นเหตุการณ์ก่อนเครื่องบินจะตก เผยว่า เธออยู่ที่บ้านซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามบิน เห็นเครื่องบินส่ายไปมาหลายครั้ง ขณะลดระดับลงสู่สนามบิน และบินในระดับต่ำผิดปกติจนกลัวว่าจะชนภูเขา และชั่วประเดี๋ยวเดียวเครื่องบินพุ่งดิ่งลงสู่พื้น และได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น

   
จากข้อมูลในทวิตเตอร์ของ ไฟลท์เรดาร์ 24 ผู้ให้ข้อมูลด้านการบินของสายการบินต่างๆ แห่งสวีเดน เครื่องบินลำที่เกิดเหตุเป็นเครื่องบินบอมบาร์เดียร์ แดช 8 คิว 400 อายุการใช้งาน 17 ปี ส่วนยูเอส-บังกลา แอร์ไลน์ส เป็นสายการบินเอกชนของบังกลาเทศ มีฐานอยู่ที่กรุงธากา เริ่มบินให้บริการผู้โดยสารทั้งสายภายในและระหว่างประเทศ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2557 ด้วยสโลแกน "บินรวดเร็ว บินปลอดภัย"  โดยใช้เครื่องบิน 2 แบบคือรุ่นที่ตกนี้ กับโบอิ้ง 737-800.