
สัปดาห์ที่ผ่านมา กองทัพเมียนมาวางกองกำลังรักษาความมั่นคงเพิ่มเติม บริเวณพรมแดนติดกับบังกลาเทศ โดยมีจุดประสงค์ชัดเจนที่จะผลักดันผู้ลี้ภัยที่อยู่ในเขตปลอดคน ไปยังอาณาเขตของบังกลาเทศ
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เปิดเผยว่า ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะส่งผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา ในบังคลาเทศ กลับไปยังเมียนมาร์ ได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากยังมีความรุนแรงที่แผ่กว้างและเป็นระบบ ในการต่อต้านคนกลุ่มนี้ในเมียนมา และอาจนำไปสู่ “การกวาดล้างทางชาติพันธุ์”
นายรูเพิร์ต คอลวิลล์ โฆษกสำนักงานด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น เผยว่า แอนดรูว์ กิลเมอร์ ผู้ช่วยเลขาธิการด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็น ได้เดินทางไปเยือนบังคลาเทศเป็นเวลา 4 วัน ซึ่งเขาตั้งข้อสังเกตว่า ถึงแม้อัตราการสังหารชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ของเมียนมาจะลดลง แต่ก็ยังมีข้อมูลว่า การฆาตกรรม การข่มขืน การทรมาน การลักพาตัว และการบังคับให้อดอาหาร ยังคงเกิดขึ้น
ด้านรัฐบาลเมียนมา ปฏิเสธเรื่องการละเมิดดังกล่าว และประกาศในเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า พร้อมที่จะรับผู้ลี้ภัยกลับมา
รายงานของกิลเมอร์ ระบุว่า ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะมีการเดินทางกลับอย่างปลอดภัย มีศักดิ์ศรี และยั่งยืน ภายใต้สภาพการณ์ปัจจุบัน
ทั้งนี้ มีชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 700 000 คน หนีออกจากเมียนมา ที่ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ไปยังบังกลาเทศ นับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เมื่อกองกำลังความมั่นคงของเมียนมา เริ่มกวาดล้างรัฐยะไข่ หลังกลุ่มต่อต้านรัฐบาลชาวโรฮิงญาก่อเหตุโจมตี
รัฐบาลเมียนมา ได้จัดตั้งค่ายรับผู้ลี้ภัย 2 แห่ง และค่ายเปลี่ยนผ่าน 1 แห่ง สำหรับผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ แต่สำนักงานด้านสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นบอกว่า ขณะนี้ ยังไม่มีความปลอดภัยที่จะส่งชาวโรฮิงญากลับไป
นายคอลวิลล์ บอกว่า “การพูดคุยในขณะนี้ ต้องมุ่งเน้นเรื่อง การหยุดความรุนแรงทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ โดยผู้กระทำผิดต้องแสดงความรับผิดชอบ และเมียนมาจำเป็นต้องทำให้สภาพแวดล้อมเหมาะที่จะรับผู้ลี้ภัยกลับไป”
ที่มาของเนื้อหา:bangkokbiznews.com
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ยูเอ็นยืนยันส่งโรฮิงญากลับเมียนมาไม่ได้ "