
สำนักข่าวเอพีรายงานจากนครเจนวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่า ผลการสอบสวนที่รายงานโดย คณะกรรมการไต่สวนเหตุการณ์ในซีเรีย (ซีไอเอส) ของยูเอ็น ถือเป็นครั้งแรกที่มีการระบุว่า รัสเซียต้องรับผิดชอบโดยตรงต่อการเสียชีวิตของพลเรือนในซีเรีย
ส่วนหนึ่งในรายงานเขียนว่า "ทุกข้อมูลที่หาได้บ่งชี้ว่า เครื่องบินรัสเซียโจมตีทางอากาศเมื่อวันที่ 13 พ.ย. ต่อเป้าหมายตลาด รวมทั้งอาคารบ้านเรือนโดยรอบ และสถานีตำรวจที่ดำเนินการโดยกลุ่มกบฏซีเรียที่ตะวันตกสนับสนุน ในเมืองอาตาริบ จังหวัดอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือ แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 84 คน ได้รับบาดเจ็บอีก 150 คน
ซีไอเอสก่อตั้งเมื่อ 6 ปีก่อน เพื่อบันทึกข้อกล่าวหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนของคู่ขัดแย้งทุกฝ่ายในซีเรีย กล่าวว่า เครื่องบินรบรัสเซียลำดังกล่าวบินออกจากฐานทัพอากาศเฮไมมีม ในเมืองลาตาเกีย ทางภาคตะวันตกของซีเรีย ซึ่งดำเนินการโดยกองทัพรัสเซีย
รัสเซียเป็นผู้สนับสนุนหลักของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงช่วยทำให้กองทัพซีเรียกลายเป็นต่อคู่ขัดแย้งในสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาเกือบจะครบ 7 ปีในกลางเดือน มี.ค. นี้
อย่างไรก็ตาม กองทัพรัสเซียปฏิเสธอย่างแข็งขัน ต่อข้อกล่าวหาสังหารพลเรือนซีเรีย และยืนยันว่ากองกำลังของตนในซีเรียโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น หลังจากมีการตรวจสอบสถานที่เป้าหมายอย่างแน่ชัด โดยผ่านแหล่งข่าวกรองจำนวนมาก และไม่เคยโจมตีพื้นที่ทีมีพลเรือนอาศัยอยู่หนาแน่น
รายงานที่นำออกเผยแพร่เมื่อวันอังคาร ซึ่งจัดเตรียมภายใต้ภารกิจปัจจุบัน ที่ได้รับมอบหมายจากคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน เป็นผลจากการสอบสวนเป็นเวลา 6 เดือน ระหว่างวันที่ 8 ก.ค. ปีที่แล้วจนถึงวันที่ 15 ม.ค. ปีนี้.
คลิปประกอบ – The National
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " ยูเอ็นชี้บอมบ์84ศพในซีเรีย เมื่อพ.ย.ปีที่แล้วฝีมือรัสเซีย "