เริ่มเก็บกู้ศพเหยื่อเครื่องบินโดยสารอิหร่านโหม่งโลก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ว่า พลจัตวาโนซาร์ เนมาตี รองผู้บัญชาการกองทัพบกของอิหร่านเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยเริ่มดำเนินการเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินอาเซมาน แอร์ไลน์ส เที่ยวบินอีพี 3704 เที่ยวบินในประเทศจากเส้นทางบินกรุงเตหะรานมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทางที่เมืองยาซุจ เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 18 ก.พ. พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือบนเครื่องรวม 66 คน หลังจากบินขึ้นไปได้เพียง 45 นาที เครื่องบินก็หายไปจากจอเรดาร์ จนกระทั่งมาพบว่า เครื่องบินประสบอุบัติเหตุตกและไม่พบผู้รอดชีวิตแม้แต่รายเดียว
เฮลิคอปเตอร์ของหน่วยกู้ภัยมาพบจุดที่เครื่องบินตกหลังสภาพอากาศดีขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 20 ก.พ.ที่ระดับความสูง 4,000 เมตรบนเขาซากรอสของเทือกเขาเดนา แต่ระดับความสูงและสภาพอากาศทำให้เฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถลงจอดเพื่อเก็บกู้ศพของผู้เสียชีวิต ดังนั้นจึงต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่นำศพผู้เสียชีวิตลงมาจากเขา
ขณะที่นายโมห์เซน เมห์ราลิซาเดห์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอิสฟาฮาน ซึ่งร่วมปฏิบัติการกู้ภัยด้วย กล่าวว่า สามารถเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิตได้แล้ว 32 ศพ และศพผู้เสียชีวิต 7 ศพแรกนำลงมาจากที่เกิดเหตุเมื่อเช้าวันพุธที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เกรงว่าอาจเกิดหิมะถล่มซ้ำช่วงปฏิบัติการเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิต
อุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารแบบเอทีอาร์-72ขนาดสองเครื่องยนต์ เข้าประจำการมาตั้งแต่ปี 2536 ทำให้เกิดกระแสวิตกเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านการบินในประเทศอิหร่าน ซึ่งถูกนานาชาติคว่ำบาตรมานานหลายปี นอกจากนั้น สายการบินอาเซมาน แอร์ไลน์ส ก็อยู่ในบัญชีดำตามประกาศของคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อปี 2559