ยิวอ้างโดรนอิหร่านที่ถูกยิง ‘ลอกแบบ’ จากของสหรัฐ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ว่าองค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ( เอชโอเอชอาร์ ) รายงานเมื่อวันอาทิตย์ ว่าผลจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพอิสราเอล ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ต่อเป้าหมาย 12 แห่งในซีเรีย ที่เชื่อว่าส่วนใหญ่เป็นฐานที่มั่นของอิหร่าน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน
 

#Israel releases video of #Iran(Ian) drone which crossed into Israel and was downed by an Apache attack helicopter near Beit She’an pic.twitter.com/McX4ltwFlf

— Anna Ahronheim (@AAhronheim) February 10, 2018

ความเคลื่อนไหวทางทหารดังกล่าวของรัฐบาลเทลอาวีฟมีขึ้น หลังการอ้างการยิงสกัดอากาศยานไร้คนขับของอิหร่าน ซึ่งเดินทางผ่านน่านฟ้าของซีเรียเข้ามาในอิสราเอล และการที่ระบบป้องกันภัยทางอากาศของกองทัพซีเรียยิงสกัดเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ของอิสราเอล ที่บินรุกล้ำน่านฟ้าในวันเดียวกัน แม้นักบินประจำเครื่อง 2 นาย สามารถดีดตัวออกจากเครื่องบินได้สำเร็จ และบังคับให้เครื่องบินตกในเขตแดนทางเหนือของประเทศ แต่นักบินนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส และถือเป็นครั้งแรกในรอบ 36 ปี ที่อากาศยานของอิสราเอลถูกยิงตกโดย "ฝ่ายศัตรู หรือนับตั้งแต่การทำสงครามในเลบานอน เมื่อปี 2525

เศษซากเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 ของอิสราเอล ซึ่งตกในพื้นที่ทางเหนือของประเทศ หลังถูกยิงโดยกองทัพซีเรีย

ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ประกาศว่ากองทัพอิสราเอลจะเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย "เพื่อให้เป็นเขตปลอดอิหร่าน" แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่าบานปลายจนกลายเป็นแนวรบใหม่ระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ที่ยังไม่เคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างชัดเจนนัก ด้านนายยูวาล สไตน์นิตซ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวว่าโดรนของอิหร่านที่อิสราเอลสามารถสกัดได้นั้น มีความคล้ายคลึงกับรุ่น "อาร์คิว-170" ของสหรัฐ ที่ถูกยิงตกในอิหร่านเมื่อปี 2554 มาก แต่รัฐบาลวอชิงตันยังสงวนท่าทีต่อข้อมูลดังกล่าว
 

Secretary Tillerson travels to Amman, Jordan; Ankara, Turkey; Beirut, Lebanon; Cairo, Egypt; and Kuwait City, Kuwait, February 11–16. Follow @USEmbassyJordan, @USEmbassyTurkey, @usembassybeirut, @USEmbassyCairo, and @USEmbassyQ8. Trip details: https://t.co/ZsaQxbRN04 pic.twitter.com/otj9aIoudL

— Department of State (@StateDept) February 12, 2018

อนึ่ง สถานการณ์ร้อนแรงครั้งล่าสุดในตะวันออกกลางเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ มีกำหนดเดินสายเยือนอียิปต์ คูเวต จอร์แดน เลบานอน และตุรกี ในสัปดาห์นี้ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่าไม่มีกำหนดการเยือนทั้งอิสราเอลและปาเลสไตน์.