
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนคนนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ว่านางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็น กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) เมื่อวันจันทร์ เรียกร้องให้มีการรับรองร่างมติที่รัฐบาลวอชิงตันเป็นผู้เสนอ ให้ประณาม “อย่างรุนแรงที่สุด” ต่อการที่กองทัพซีเรียใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนในเมืองดูมา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20 คน อีกทั้งก่อนหน้านั้นกองทัพซีเรียยังใช้ก๊าซคลอรีนไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง โจมตีพลเรือนในเขตกูตาตะวันออก ชานกรุงดามัสกัสด้วย
.@USUN Ambassador Haley: It’s a tragedy #Russia has sent us back to square one in the effort to end chemical weapons use in #Syria, but we will not cease in our efforts to know the truth of the Assad regime and ensure the truth is known and acted on by the international community pic.twitter.com/2lKyDC88sY
— Department of State February 5, 2018
#Nebenzia: We need to deploy a fact-finding #OPCW mission. Any conclusions need to be preceded by an investigation. But it should be abundantly clear to all that some #UNSC members have no interest in such investigation. They need neither facts nor clear accurate evidence. pic.twitter.com/HrZJWyITmY
— Russian Mission UN February 5, 2018
อย่างไรก็ตาม นายวาสซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวตอบโต้ข้อกล่าวหาของสหรัฐว่า “ไม่มีหลักฐาน” และเป็นอีกครั้งที่อเมริกาและพันธมิตรใช้ “โฆษณาชวนเชื่อ” เพื่อกล่าวโทษประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ในเรื่องนี้ และได้เสนอร่างมติใหม่เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ว่าการประณามการใช้อาวุธเคมีในซีเรียควรอ้างอิงจาก “หลักฐานที่เชื่อถือได้” และผลการตรวจสอบโดย “ผู้เชี่ยวชาญ” ทั้งนี้ ยูเอ็นเอสซีเคยประชุมเรื่องสถานการณ์การใช้อาวุธเคมีในซีเรีย 2 ครั้ง เมื่อเดือนพ.ย. ปีที่แล้ว และรัสเซียซึ่งเป็นสมาชิกถาวรใช้อำนาจวีโต้ปัดตกร่างมติที่เสนอโดยสหรัฐทั้งสองครั้ง
ในเวลาเดียวกัน องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย ( เอสโอเอชอาร์ ) รายงานการโจมตีทั้งจากการทิ้งระเบิดโดยเครื่องบิน และการยิงปืนใหญ่ข้ามเขตต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง ในเขตกูตาตะวันออก ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่เพียงไม่กี่แห่งรอบกรุงดามัสกัส ซึ่งกลุ่มกบฏยังคงยึดครองเอาไว้ได้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 29 คน และได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " รัสเซียโต้อเมริกา ‘ไร้หลักฐาน’ เรื่องอาวุธเคมีในซีเรีย "