ทหารตุรกีตาย 7 ในการสู้รบกองกำลังชาวเคิร์ดที่ซีเรีย รถถังคันหนึ่งถูกถล่มดับไป 5

บีบีซีนิวส์/เอเอฟพี – กองทัพตุรกีเผชิญกับวันสูญเสียหนักหน่วงที่สุดในยุทธการบุกเข้าไปปราบปรามกองกำลังอาวุธชาวเคิร์ดในบริเวณภาคเหนือของซีเรีย เมื่อมีทหารของตน 7 คนถูกสังหารในวันเสาร์ (3 ก.พ.) โดยในจำนวนนี้ 5 คนเสียชีวิตเนื่องจากรถถังของพวกเขาถูกโจมตี

นายกรัฐมนตรี บินาลี ยิลดิริม ของตุรกี ประกาศว่าจะทำให้กองกำลังอาวุธชาวเคิร์ดเหล่านี้ “ต้องจ่ายค่าตอบแทนเป็น 2 เท่าตัว” และในเวลาต่อมาเครื่องบินไอพ่นของกองทัพเติร์กก็ได้เข้าถล่มโจมตีเป้าหมายต่างๆ ของชาวเคิร์ด ในบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองอัฟริน

กองทัพตุรกีเปิดยุทธการ “โอลีฟ แบรนช์” (ช่อมะกอก) ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา เพื่อขับไล่กองกำลังอาวุธท้องถิ่นชาวเคิร์ดในซีเรีย ซึ่งเรียกขานกันว่า วายพีจี ให้ออกไปจากพื้นที่เขตอัฟริน

ตุรกีมองว่า วายพีจี (หน่วยพิทักษ์ประชาชนของชาวเคิร์ดซีเรีย) เป็นกลุ่มก่อการร้าย และเป็นส่วนต่อขยายของพรรคเคอร์ดิสถาน เวิร์กเกอร์ ปาร์ตี้ (พีเคเค) ซึ่งถูกทางการตุรกีประกาศเป็นพวกนอกกฎหมาย และได้จับอาวุธสู้รบเพื่อแบ่งแยกดินแดนของชาวเคิร์ดในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีออกเป็นชาติเอกราชมาเป็นเวลาราว 30 ปีแล้ว

สำหรับความสูญเสียที่เกิดขึ้นในวันเสาร์ (3) กองทัพตุรกีระบุในคำแถลงฉบับหนึ่งว่า วายพีจีได้โจมตีรถถังคันดังกล่าวในพื้นที่ชัยค์ฮารุซ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองอัฟริน

นักรบกบฏซีเรียกลุ่ม เอฟเอสเอ ที่ตุรกีหนุนหลังอยู่ ขณะอยู่ใกล้ๆ ภูเขาบาร์ซายา ในหมู่บ้านกัสตัล ของซีเรีย เมื่อวันพฤหัสบดี (1 ก.พ.)

ขณะที่ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน มีทหารตุรกีอีก 2 คนถูกสังหาร คนหนึ่งในอัฟริน ส่วนอีกคนหนึ่งในพื้นที่ฝั่งตุรกีของชายแดน ในเหตุโจมตีที่อังการากล่าวโทษว่าเป็นฝีมือกลุ่มวายพีจี

นับจนถึงขณะนี้ ตุรกีสูญเสียทหารไปแล้ว 14 คนในการสู้รบอันรุนแรงระหว่างการบุกเข้าอัฟรินนี้

นายกฯยิลดิริมของตุรกีกล่าวย้ำในวันเสาร์ (3) ว่าจุดประสงค์ของยุทธการ “โอลีฟ แบรนช์” ก็เพื่อกำจัดขัดขวางไม่ให้ชาวเคิร์ดสามารถก่อตั้ง “แถบพื้นที่การก่อการร้าย” ขึ้นตามแนวพรมแดนระหว่างซีเรียกับตุรกี

“นี่เป็นยุทธการซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อปลดปล่อยชาวอาหรับ และพี่น้องชาวเคิร์ดและชาวเติร์กเมนของพวกเรา ซึ่งกำลังส่งเสียงคร่ำครวญอยู่ภายใต้การกดขี่” เขากล่าวกับพวกสมาชิกพรรคเอเคพี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล

ตุรกีบอกว่าการปฏิบัติการของทหารของตนครั้งนี้ เป็นการร่วมมือประสานงานกับพวกกบฏชาวซีเรียที่ฝักใฝ่ตุรกี ซึ่งใช้ชื่อว่า ฟรี ซีเรียน อาร์มี (เอฟเอสเอ)

ตุรกีคุยยุทธการขับไล่เคิร์ดเดินหน้าไปได้ “ตามแผน”

ประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิป แอร์โดอัน แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (1) ที่ผ่านมาว่า กองทหารตุรกีและกองกำลังกบฏซีเรีย เอฟเอสเอ เสียชีวิตไปทั้งสิ้น 25 คนนับตั้งแต่เปิดยุทธการ โอลีฟ แบรนช์” เป็นต้นมา

ขณะเดียวกัน มีพลเรือน 7 คนถูกสังหารจากปืนครกที่ยิงเข้าใส่พื้นที่ฝั่งตุรกีของบริเวณชายแดน โดยที่อังการาประณามว่าเป็นฝีมือของกองกำลังวายพีจี

อังการากล่าวว่าในยุทธการที่ดำเนินไป 15 วันแล้วนี้ ฝ่ายตนมีความคืบหน้าอย่างสำคัญ โดยที่สังหารพวกนักรบวายพีจีไปเกือบ 900 คนแล้ว ถึงแม้ตัวเลขนี้ยังไม่มีแหล่งข่าวอิสระใดๆ ให้การรับรอง

แอร์โดอันได้ให้คำยืนยันระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเอมมานเอล มาครง ของฝรั่งเศสในวันเสาร์ (3) ว่า ยุทธการคราวนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเล่นงาน “พวกกลุ่มผู้ก่อการร้าย” โดยที่อังการาไม่ได้หมายตาที่จะยึดดินแดนซีเรียแต่อย่างใด

ในวันเสาร์เช่นกัน แอร์โดอันกล่าวระหว่างการปราศรัยครั้งหนึ่งในตุรกีว่า กองทหารตุรกีเริ่มต้นด้วยการเข้ายึดที่มั่นต่างๆ บนภูเขาเอาไว้ และมาถึงตอนนี้กำลังเคลื่อนทัพมุ่งสู่เมืองอัฟรินโดยตรงแล้ว “ต้องไปอีกไม่ไกลเท่าไหร่แล้ว” เขากล่าว

ชาวเคิร์ดซีเรียในเมืองอัฟริน เมื่อวันเสาร์ (3 ก.พ.) เข้าร่วมพิธีศพของนักรบวายพีจีซึ่งถูกสังหารในการปะทะกับกองกำลังฝ่ายตุรกี ที่บริเวณภาคเหนือของซีเรียติดต่อกับพรมแดนตุรกี

ทางด้าน อิบรอฮิม คาลิน โฆษกของแอร์โดอัน บอกกับพวกนักข่าวในเมืองอิสตันบูลว่า ยุทธการนี้กำลังเดินหน้าไปได้ตามแผนการที่วางไว้ แต่ไม่ได้มีตารางเวลากำหนดว่าจะใช้เวลาเท่าใด โดยที่จะ “ดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเราสามารถเคลียร์พื้นที่เหล่านี้ได้ทั้งหมดแล้ว”

อย่างไรก็ตาม พวกนักวิเคราะห์และกลุ่มที่เฝ้าติดตามสถานการณ์กล่าวว่า จวบจนถึงขณะนี้ฝ่ายตุรกีสามารถบุกเข้ายึดครองพื้นที่อย่างจำกัดเป็นหย่อมๆ รอบๆ ชายแดนเท่านั้น โดยที่ยังไม่สามารถเข้าประชิดเมืองอัฟรินได้

ถึงแม้ตุรกีตราหน้าพวกวายพีจีเป็นผู้ก่อการร้ายและเป็นพวกเดียวกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนวายเคเค แต่วายพีจีก็เป็นกองกำลังซึ่งทำงานใกล้ชิดกับสหรัฐฯในการสู้รบกับพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรีย

การที่ตุรกีซึ่งเป็นพันธมิตรองค์การนาโต้เช่นเดียวกับสหรัฐฯ เปิดการรุกโจมตีใส่กองกำลังอาวุธที่เป็นเพื่อนมิตรของวอชิงตันเช่นนี้ ก่อให้เกิดความหวาดหวั่นกันว่าในที่สุดแล้วจะนำไปสู่การเผชิญหน้าทางการทหารระหว่างสหรัฐฯกับตุรกี โดยเฉพาะหากอังการาเปิดฉากบุกใส่เมืองมานบิจ ซึ่งอยู่ห่างจากอัฟรินไปทางตะวันออกราว 100 กิโลเมตร

มานบิจเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนภาคเหนือซีเรียอีกผืนหนึ่งซึ่งอยู่ในการควบคุมของวายพีจี โดยที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดนทั้งตุรกีและอิรัก ที่สำคัญคือเมืองนี้มีกองทหารรรบพิเศษอเมริกันซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือวายพีจี ประจำการอยู่

ที่มาของเนื้อหา:mgronline.com