ทรัมป์ชมตัวเอง ‘มีจิตใจมั่นคงและเป็นอัจฉริยะ’

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ว่าหลังหนังสือเรื่อง “ไฟร์ แอนด์ ฟิวรี : อินไซด์ เดอะ ทรัมป์ ไวท์เฮาส์” ( Fire and Fury : Inside the Trump White House ) บอกเล่า “เบื้องลึกเบื้องหลัง” เกี่ยวกับทำเนียบขาวภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วางแผงเป็นวันแรกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนอย่างล้นหลาม ทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 หนังสือขายดีของเว็บไซต์แอมะซอนเป็นที่เรียบร้อย ผู้นำสหรัฐระดมทวีตข้อความเมื่อวันเสาร์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

Michael Wolff is a total loser who made up stories in order to sell this really boring and untruthful book. He used Sloppy Steve Bannon, who cried when he got fired and begged for his job. Now Sloppy Steve has been dumped like a dog by almost everyone. Too bad! https://t.co/mEeUhk5ZV9

— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) January 6, 2018

….Actually, throughout my life, my two greatest assets have been mental stability and being, like, really smart. Crooked Hillary Clinton also played these cards very hard and, as everyone knows, went down in flames. I went from VERY successful businessman, to top T.V. Star…..

— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) January 6, 2018

….to President of the United States (on my first try). I think that would qualify as not smart, but genius….and a very stable genius at that!

— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) January 6, 2018

เริ่มจากการกล่าวถึงนายไมเคิล วูล์ฟฟ์ นักเขียนและผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ “ยูเอสเอ ทูเดย์” ซึ่งเป็นเจ้าของผลงานชิ้นนี้ว่า “เป็นคนขี้แพ้” และ “เสกสรรปั้นแต่งเรื่องราว” ในหนังสืออันน่าเบื่อเล่มนี้ โดยคำด่าอันเจ็บแสบของผู้นำสหรัฐแน่นอนยังคงลามไปถึงนายสตีฟ แบนนอน อดีตกุนซือคนสนิท ซึ่งให้สัมภาษณ์ลงในหนังสือเล่มนี้ด้วย ก่อนปิดท้ายด้วยการทวีตว่า “ทรัพย์สมบัติ” ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขามีอยู่สองสิ่งคือ “ความมั่นคงทางจิตใจ ” และ “ความเฉลียวฉลาด” ทรัมป์ได้ยกการประสบความสำเร็จของตัวเอง จากการเป็นนักธุรกิจ สู่การเป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการโทรทัศน์ และก้าวขึ้นสู่การเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ สะท้อนว่าเขามีคุณสมบัติของการเป็น “อัจฉริยะ” อย่างแท้จริง

ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐยังกล่าวถึงหนังสือเล่มนี้ ระหว่างการแถลงผลการประชุมด้านความมั่นคงที่แคมป์ เดวิด ในรัฐแมริแลนด์ ว่าวูล์ฟฟ์ “เป็นคนหลอกหลวง” เพราะจริงอยู่ที่เขาเคยให้สัมภาษณ์กับอีกฝ่าย แต่เกิดขึ้นนานมากแล้วและใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าเขากับวูล์ฟฟ์ “รู้จักกัน”บทสัมภาษณ์ทั้งหมดที่พาดพิงถึงเขาในหนังสือเล่มนั้น “เป็นเพียงจินตนาการ”

Top takeaways from #FireAndFury

– People around Trump think he’s stupid

– He’s not a big reader

– He never wanted to be pres

– He doesn’t understand the Constitution

– He’s paranoid

– His sexism continues

– His mental state might be worsening

– Bannon calls campaign ‘treasounous’ pic.twitter.com/OT2Sjqs2WY

— NowThis (@nowthisnews) January 5, 2018

WATCH: Michael Wolff’s much-anticipated new book, ‘Fire and Fury,’ is flying off the shelves — and not just in New York and D.C., but also deep in Trump country. #LastWord #FireAndFury pic.twitter.com/DK2Y2wHTWV

— The Last Word (@TheLastWord) January 6, 2018

อย่างไรก็ตาม พล.อ.จอห์น เคลลีย์ หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบขาว ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับท่าทีทั้งหมดของทรัมป์ที่มีต่อหนังสือเล่มนี้ ขณะที่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แม้มีกระแสข่าวไม่ลงรอยกับทรัมป์มาตั้งแต่ต้น ออกมาให้สัมภาษณ์ปกป้องผู้นำสหรัฐ ว่าเขา “ไม่เคยมี” และ “ไม่เคยมีเหตุผลที่ต้องมี” ความสงสัยเกี่ยวกับสมรรถภาพทางจิตของทรัมป์ ว่าเพียงพอสำหรับการเป็นผู้นำประเทศหรือไม่ หลังเนื้อหาในบทหนึ่งของหนังสือวิจารณ์ทรัมป์ “ทำตัวเป็นเด็ก”.