วันพุธ 14 พฤษภาคม 2568
ติดตามเว็บไซต์
หน้าแรก > ข่าวประจำวัน > อิหร่านชี้สหรัฐ-อิสราเอลชักใยเหตุจลาจลในประเทศ

อิหร่านชี้สหรัฐ-อิสราเอลชักใยเหตุจลาจลในประเทศ

หมวดหมู่ : ข่าวประจำวัน เปิดอ่าน 89 ครั้ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน เมื่อวันที่ 2 ม.ค. ว่าสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของอิหร่านรายงานเมื่อวันจันทร์ ว่าสถานการณ์จลาจลในเมืองใหญ่หลายแห่งของประเทศที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความไม่พอใจในนโยบายด้านเศรษฐกิจ แต่ขยายวงกว้างกลายเป็นการประท้วงต่อต้านรัฐบาล ยังคงอยู่ในขั้นรุนแรงและมีผู้เสียชีวิตจากการปะทะอย่างน้อย 13 คน และมีผู้ถูกจับกุมอีกหลายร้อยคนทั่วประเทศ

ทั้งนี้ เหตุรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นที่เมืองตูเซอร์กัน ทางตะวันตกของประเทศ โดยมีผู้เสียชีวิตจากการถูกยิง 6 คนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเพียงวันเดียว นอกจากนี้ ในจำนวนผู้เสียชีวิตยังรวมถึงตำรวจนายหนึ่งซึ่งถูกยิงที่เมืองนาจาฟาบาด ในภาคกลางของประเทศด้วย ซึ่งสถานการณ์ที่ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลาย และเป็นการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ความพยายามขับไล่ประธานาธิบดีมาห์มูด อาห์มาจิเนจัด เมื่อปี 2552 ถือเป็น "ความท้าทาย" ครั้งสำคัญของรัฐบาลสายกลางภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ที่อยู่ในอำนาจมาตั้งแต่ปี 2556


ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี
 

Watch: #Iranian officials and nationals alike have reacted to a recent gesture by US President @realDonaldTrump to support price protests that have hit several cities across the country. That and more, in this video. pic.twitter.com/JGSNiwYRGJ

— Press TV (@PressTV) January 1, 2018

อนึ่ง ท่าทีของผู้ประท้วงจำนวนไม่น้อยมีความโกรธแค้นต่ออยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี อดีตประธานาธิบดีซึ่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำสูงสุดของอิหร่านมาตั้งแต่ปี 2532 และถือเป็นผู้มีอำนาจสั่งการและตัดสินใจขั้นเด็ดขาดในหลายเรื่อง ขณะที่ต่อมาโรฮานีกล่าวว่าความวุ่นวายครั้งนี้ดูเหมือนเป็นผลจากการปลุกระดมโดยสหรัฐและ "อาณาจักรไซออนิสต์"  ซึ่งรับไม่ได้กับความสำเร็จด้านนโยบายการเมืองระหว่างประเทศของรัฐบาลเตหะราน และเตือนผู้ประท้วงอีกครั้งว่า "จะไม่ได้อะไรเลย" สอดคล้องกับแถลงการณ์ของสภาความมั่นคงแห่งชาติที่ระบุว่า แฮชแท็กและการปั่นกระแสบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ล้วนมาจากสหรัฐ อิสราเอล สหราชอาณาจักร และซาอุดีอาระเบีย ด้านกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน ( ไออาร์จีซี ) ออกแถลงการณ์ย้ำเตือนการใช้ "มาตรการขั้นเด็ดขาด" กับผู้ที่ละเมิดกฎหมาย
 

Iran is failing at every level despite the terrible deal made with them by the Obama Administration. The great Iranian people have been repressed for many years. They are hungry for food & for freedom. Along with human rights, the wealth of Iran is being looted. TIME FOR CHANGE!

— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) January 1, 2018

The Iranian regime tries desperately to sow hate between Iranians and Israelis. They won't succeed. When this regime finally falls – and one day it will – Iranians and Israelis will be great friends once again. I wish the Iranian people success in their noble quest for freedom. pic.twitter.com/kk8wTYmhnz

— Benjamin Netanyahu (@netanyahu) January 1, 2018

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงเดินหน้าแสดงความสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงในอิหร่านอย่างต่อเนื่อง โดยกล่าวว่า "ถึงเวลาของการเปลี่ยนแปลง" และ "ชาวอิหร่านกำลังโหยหาเสรีภาพ" เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ซึ่งกล่าวสนับสนุน "ความกล้าหาญ" ของผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเตหะราน และกล่าวด้วยว่า "เป็นเรื่องน่าขันสิ้นดี" ที่รัฐบาลโรฮานีเชื่อว่าอิสราเอลอยู่เบื้องหลังสถานการณ์จลาจลในประเทศ.

เปิดอ่าน 89 ครั้ง

ข่าวล่าสุดของหมวดหมู่ ข่าวประจำวัน

แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " อิหร่านชี้สหรัฐ-อิสราเอลชักใยเหตุจลาจลในประเทศ "

ปิดการแสดงความคิดเห็น