ฮามาสเตือนปาเลสไตน์อย่ารับข้อเสนอสหรัฐเรื่องเยรูซาเลม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองกาซาซิตี ฉนวนกาซา มื่อวันที่ 27 ธ.ค.ว่านายอิสมาอิล ฮานิเยาะห์ ผู้นำกลุ่มฮามาส แถลงเมื่อวันอังคาร ย้ำว่านโยบายเรื่องกรุงเยรูซาเลมที่รัฐบาลวอชิงตันชุดปัจจุบันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา คือความพยายามของสหรัฐในการทำให้ปาเลสไตน์ต้องสิ้นชาติ ภายใต้ข้อตกลงที่อ้างว่าเป็น “ข้อตกลงแห่งศตวรรษ”
 

US offered Palestinians a Jerusalem suburb, Abu Dis, as an alternative to East Jerusalem for the capital of a future Palestinian state, Hamas says. @AJEnglish https://t.co/aCu678QS4j

— Megan O'Toole (@megan_otoole) December 27, 2017

ทั้งนี้ ฮานิเยาะห์อ้างการได้รับ “ข้อมูลที่มีน้ำหนักจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้” ว่ารัฐบาลวอชิงตันกำลังวิ่งเต้นลับหลังอย่างหนัก ในการเจรจากับประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส เกี่ยวกับสถานะของกรุงเยรูซาเลม โดยสหรัฐเสนอยกเขตอาบู ดิส ซึ่งตั้งอยู่ชานกรุงเยรูซาเลม แต่มีสะพานเชื่อมโดยตรงเข้าสู่อาณาเขตของมัสยิดอัล-อักซอ เพื่อให้ชาวปาเลสไตน์สามารถเข้าสู่ศาสนสถาน “ได้อย่างเสรี” นอกจากนี้ ฮานิเยาะห์อ้างว่าสหรัฐยังมีแผนแบ่งเขตเวสต์แบงก์ออกเป็น 3 ส่วน และพยายามแสวงหาโอกาสเข้ามาปกครองฉนวนกาซาด้วยการจัดตั้งกลุ่มการเมืองคู่แข่งขึ้นมาด้วย แต่ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด

ขณะเดียวกัน ผู้นำสูงของกลุ่มฮามาสยังวิจารณ์ “ประเทศอาหรับบางประเทศ” ที่ใช้ประเด็นปาเลสไตน์เป็นเงื่อนไขหรือข้อแลกเปลี่ยนในการพัฒนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล ก่อนปิดท้ายด้วยการประณามโครงการขยายอาณาเขตนิคมที่อยู่อาศัยของรัฐบาลอิสราเอล ที่ยังรุกล้ำเข้ามาในดินแดนของปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่อง และเตือนอีกว่าความเคลื่อนไหวของสหรัฐเรื่องกรุงเยรูซาเลมมีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างปาเลสไตน์กับจอร์แดน ซึ่งอยู่ในสถานะ “ผู้พิทักษ์” ศาสนสถานของชาวมุสลิมในกรุงเยรูซาเลมตามข้อตกลงสันติภาพฉบับปี 2537

นายยาห์ยา ซินวาร์ นายกรัฐมนตรีฉนวนกาซา ( คนกลาง )

ด้านนายยาห์ยา ซินวาร์ นายกรัฐมนตรีฉนวนกาซา กล่าวว่ากองกำลังของกลุ่มฮามาสอยู่ในสถานะพร้อมขั้นสูงสุดตลอดเวลา ในการเผชิญหน้าทางทหารกับกองกำลังของรัฐบาลเทลอาวีฟ ซึ่งบรรยากาศในปัจจุบันบ่งชี้ว่ามีแนวโน้มเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และเรียกร้องรัฐบาลปาเลสไตน์เร่งปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์ในการจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ เพื่อเพิ่มความเป็นเอกภาพของปาเลสไตน์ในการต่อสู้เรื่องกรุงเยรูซาเลม.