กัวเตมาลาเตรียมย้ายสถานทูตไปกรุงเยรูซาเลม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวเตมาลาซิตี ประเทศกัวเตมาลา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ว่าประธานาธิบดีจิมมี โมราเลส ประกาศผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันอาทิตย์ ว่าหนึ่งในนโยบายเรื่องอิสราเอลที่สำคัญที่สุด คือการย้ายสถานเอกอัครราชทูต "กลับไปยัง" กรุงเยรูซาเลม ด้วยเหตุนี้เขาได้แจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศเตรียมดำเนินการย้ายสถานเอกอัครราชทูตกัวเตมาลาออกจากกรุงเทลอาวีฟแล้ว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังโมราเลสสนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล และกัวเตมาลาเป็นหนึ่ง ใน 9 ประเทศที่ออกเสียงคัดค้านร่างมติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) ซึ่งประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประกาศให้นโยบายเยรูซาเลมของสหรัฐเป็นโมฆะ โดยอีก 8 ประเทศที่ร่วมคัดค้านประกอบด้วย สหรัฐ อิสราเอล ฮอนดูรัส สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ ไมโครนีเซีย นาอูรู ปาเลา และโตโก

ปธน.จิมมี โมราเลส และนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ที่กรุงเทลอาวีฟ พ.ย. 2559

แม้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา รับรองสถานะกรุงเยรูซาเลมเป็น "เมืองหลวงอย่างเป็นทางการ" ของอิสราเอล แต่ไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาอย่างชัดเจน ในการย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐออกจากกรุงเทลอาวีฟ อย่างไรก็ตาม กัวเตมาลาจะถือเป็นประเทศแรกในโลกที่เตรียมเดินตามรอยรัฐบาลวอชิงตันในเรื่องนี้ ขณะที่มีรายงานว่าสาธารณรัฐเช็กกำลังพิจารณาการย้ายสถานเอกอัครราชทูตในอิสราเอลเช่นกัน ทั้งนี้ สาธารณรัฐเช็กเป็นหนึ่งใน 35 ประเทศที่ใช้สิทธิ์งดออกเสียง

อนึ่ง โมราเลสเคยกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ด้วยว่า กัวเตมาลาเป็นประเทศที่ "สนับสนุนอิสราเอล" หรือ "โปรอิสราเอล" อย่างแท้จริง โดยทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทางการทูตกันอย่างแนบแน่นและยาวนาน นับตั้งแต่การสถาปนารัฐอิสราเอล เมื่อปี 2491 หรือ 69 ปีที่แล้ว และกัวเตมาลายังเป็นหนึ่งในประเทศในลาตินอเมริกาที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลวอชิงตันมากที่สุด คือ 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 24,525 ล้านบาท ) ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้.