
สมาชิกสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) เมื่อ 21 ธ.ค. ลงมติเสียงส่วนใหญ่ 128 ต่อ 9 เสียง งดออกเสียง 35 เสียง อีก 21 เสียงไม่เข้าประชุม ไม่ยอมรับคำประกาศของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ให้นครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลและให้ถือว่า เป็นโมฆะ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯขู่จะตัดงบประมาณการช่วยเหลือประเทศที่ลงมติคัดค้าน ทำให้นางนิกกี้ เฮลีย์ ทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น เผยว่า การโหวตไม่ยอมรับของยูเอ็นนี้จะไม่มีผลกับการตัดสินใจของสหรัฐฯที่จะย้ายสถานทูตจากกรุงเทลอาวีฟไปยังนครเยรูซาเลม และสหรัฐฯจะจดจำวันนี้ เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนธันยาฮู แห่งอิสราเอล ก็ออกมาปฏิเสธมติของยูเอ็นในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม นายริยัด มันซูร์ เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำยูเอ็น มองว่า เป็นชัยชนะที่ไม่ใช่เพียงปาเลสไตน์ แต่สำหรับยูเอ็นและกฎหมายสากล ด้วยประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือรายใหญ่จากสหรัฐฯ รวมอัฟกานิสถาน อียิปต์ จอร์แดน ปากีสถาน ไนจีเรีย เอธิโอเปีย แทนซาเนีย และแอฟริกาใต้ ต่างลงมติสนับสนุนยูเอ็น เฉพาะอียิปต์รับเงินช่วยเหลือจากสหรัฐฯปีนี้ราว 1,400 ล้านดอลลาร์ (กว่า 45,000 ล้านบาท) และจอร์แดนราว 1,300 ล้านดอลลาร์ (ราว 42,000 ล้านบาท) ซึ่งในปีหน้า สหรัฐฯมีงบประมาณช่วยเหลือต่างประเทศ 25,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 844,000 ล้านบาท) จึงต้องดูว่าทรัมป์จะดำเนินตามคำขู่จริงหรือไม่ต่อไป.
ที่มาของเนื้อหา: www.thairath.co.th
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " มะกันลุยย้ายสถานทูตยิว ไม่สนแม้มติยูเอ็นเป็นโมฆะ "