
สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ว่า นาจิบกลุ่มปราศรัยต่อประชาชนที่มัสยิดกลางปุตราจายา หลังเสร็จพิธีละหมาดประจำสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ ว่า มาเลเซียจะทำทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ เพื่อปกปักรักษาเยรูซาเลม และเขาไม่หวาดหวั่นต่อการคุกคามของสหรัฐ และไม่กลัวว่าจะเกิดผลกระทบต่อความสนิทสนมของเขาที่มีต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ
เดือน ก.ย. นาจับพบปะกับทรัมป์ที่ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน และเดือนที่แล้วเขาโพสต์ภาพถ่ายคู่กับทรัมป์บนทวิตเตอร์ ในระหว่างการประชุมภูมิภาคที่กรุงมะนิลา เมืองหลวงฟิลิปปินส์
เมื่อวันพฤหัสบดี มาเลเซียเข้าร่วมประเทศสมาชิกอื่นๆ กว่า 120 ประเทศ ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ในการยกมือสนับสนุนมติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ที่เรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกการรับรองเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล โดยไม่สนใจคำขู่ของทรัมป์ ที่จะตัดความช่วยเหลือทางการเงิน แก่บรรดาประเทศที่ลงมติสวนทางกับสหรัฐ
นาจิบกล่าวอีกว่าจุดยืนของมาเลเซียยังมั่นคง ในการสนับสนุนการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระและมีอธิปไตย "เราต้องการให้ปาเลสไตน์เป็นรัฐเอกราชที่มีศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจ เราต้องการให้เยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวงของปาเลสไตน์
ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย ในวันเดียวกัน ความคืบหน้าเหตุการณ์ผู้ชายคนหนึ่งจงใจขับรถยนต์พุ่งชนประชาชนคนเดินถนน บริเวณใกล้สี่แยกในเมืองเมลเบิร์น เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 คน เจ้าหน้าที่ออสเตรเลียเผยเมื่อวันศุกร์ ว่า ชายรายดังกล่าว ซึ่งยังไม่เปิดเผยรายชื่อ อายุ 32 ปี เดินทางเข้าสู่ออสเตรเลียในฐานะผู้ลี้ภัย ให้การกับตำรวจว่า เขาลงมือก่อเหตุเพื่อแก้แค้นให้กับชาวมุสลิมที่ถูกปฏิบัติไม่ดี
เจ้าหน้าที่เผยอีกว่า ผู้ได้รับบาดเจ็ฐในเหตุการณ์ มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 9 คน ประกอบด้วยชาวเกาหลีใต้ 3 คน อาการสาหัส ส่วนที่เหลือเป็นชาวจีน อิตาลี อินเดีย เวเนซุเอลา ไอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์.
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " นายกฯมาเลย์นำประท้วงรับรองเยรูซาเลม "