ฮูธีย์ยิงขีปนาวุธโจมตีซาอุฯ แล้ว 83 ลูก

พ.อ. Turki al-Maliki โฆษกกองกำลังพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุดีอาระเบียกล่าวในการแถลงข่าวที่กรุงริยาดว่าการกองกำลังพันธมิตรได้สกัดกั้นขีปนาวุธที่ถูกยิงเข้าใส่ซาอุดิอาระเบียได้ 83 ลูก รวมทั้งลูกที่ 83 ที่ยิงเข้าใส่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดิอาระเบียเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ตามรายงานของสำนักข่าว Anadolu

“ความต่อเนื่องของการโจมตีขีปนาวุธดังกล่าวหมายความว่ากองกำลังทหารอิหร่าน และกลุ่มกบฎฮูธีย์ได้เพิ่มความตึงเครียดอย่างรุนแรง และแสดงให้เห็นว่ามีการลักลอบขนอาวุธดำเนินไปอย่างต่อเนื่องผ่านช่องทางความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม” al-Maliki กล่าว

นอกจากนี้เขายังกล่าวว่าประชาคมระหว่างประเทศได้เริ่มตระหนักถึงการแทรกแซงของระบอบการปกครองอิหร่านและการควบคุมองค์กรก่อการร้ายบางแห่งในโลก

“ก่อนที่กองกำลังสัมพันธมิตรจะเริ่มดำเนินการในเดือนมีนาคม 2015 กลุ่มกบฎฮูธีย์ได้ยึดครองดินแดนเยเมนไปแล้วร้อยละ 90 ขณะที่ในเวลานี้กองกำลังที่ถูกต้องทางกฎหมายของเยเมนได้ปลดปล่อยเยเมนได้แล้วถึงร้อยละ 85” เขากล่าว

นอกจากนี้ยังระบุว่าในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาได้สังหารสมาชิกของกลุ่มกบฎฮูธีย์ไปแล้วไม่น้อยกว่า 11,000 ราย

al-Maliki เตือนสำหรับทุกคนที่ละเมิดพรมแดนของซาอุดิอาระเบียจะต้องได้รับผลตอบแทน

กลุ่มกบฎฮูธีย์ที่อิหร่านให้การหนุนหลังประกาศว่าได้ยิงขีปนาวุธถล่มวัง Yamama Royal ในกรุงริยาด ขณะที่ซาอุดิอาระเบียระบุว่ามีปนาวุธดังกล่าวมีเป้าหมายที่ย่านที่อยู่อาศัยในกรุงริยาด ก่อนที่จะยิงสกัดได้กลางอากาศโดยไม่มีความเสียหายใดๆ

ทั้งนี้เยเมนจมอยู่กับความรุนแรงหลังจากกลุ่มชีอะห์ฮูธีย์ก่อกบฎ และใช้ความรุนแรงเข้ายึดครองดินแดนส่วนมากในเยเมนรวมทั้งเมืองหลวงกรุงซานาตั้งแต่ปี 2014 ขณะที่ในปี 2015 รัฐบาลเยเมนได้ร้องขอความช่วยเหลือจากสหประชาชาติ โดยกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยซาอุดิอาระเบียได้เริ่มปฎิบัติการทางอากาศเพื่อกอบกู้เอกราชของเยเมนจนถึงขณะนี้

ด้านสำนักข่าวอัลอาระบียะห์รายงานว่าส่วนของความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม พ.อ. al-Maliki กล่าวว่ารัฐบาลกำลังดำเนินการต่อไปในการช่วยเหลือผู้อพยพชาวเยเมนแม้ว่าจะมีการยิงขีปนาวุธเข้าโจมตีซาอุดิอาระเบียอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มติดอาวุธที่มีอิหร่านหนุนหลังก็ตาม

เขาบอกว่าเรือที่เต็มไปด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในท่าเรือของเยเมนเป็นเวลา 30 วัน

ในการแถลงข่าวเอกอัครราชทูตซาอุดิอาราเบียซาอุดีอาระเบียประจำกรุงเยเมน (Mohammed al-Jaber) กล่าวว่ากำลังอยู่ในระหว่างการสรุปแผนการดำเนินงานด้านมนุษยธรรมที่ครบวงจรในเยเมน

เขากล่าวว่าแผนรวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถของท่าเรือเยเมน และการขนส่งโดยผ่านทางกรมแดนซาอุดิอาระเบียเพื่อให้มั่นใจว่าความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะถึงมือชาวเยเมนอย่างแท้จริง