 |
 |
 |
 |
 |
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองกาซาซิตี ฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอล ( ไอดีเอฟ ) ออกแถลงการณ์ว่าได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมาย 4 แห่งในฉนวนกาซา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้การระดมยิงจรวดข้ามพรมแดนของกลุ่มฮามาสหลายระลอกตั้งแต่คืนวันศุกร์ โดยจรวดส่วนใหญ่ตกลงในพื้นที่ของเมืองสเดอรอตที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องอพยพไปอาศัยยังศูนย์พักพิงชั่วคราวของทางการ ท่ามกลางความวิตกกังวลของชาวบ้านในท้องถิ่น ว่าสถานการณ์อาจทวีความรุนแรง เนื่องจากกองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสทำสงครามกันมาแล้ว 3 ครั้ง ในรอบ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา
Palestinians rally for third day to slam Trump’s Jerusalem al-Quds move / #FreePalestine https://t.co/cPsR0SaXDz
— Press TV (@PressTV) December 9, 2017
#Israeli forces confiscate #Palestinian flags from demonstrators#FreePalestine pic.twitter.com/pFEDjk8pqo
— Press TV (@PressTV) December 9, 2017
ด้านกลุ่มฮามาสออกแถลงการณ์ว่ามีสมาชิกอย่างน้อย 2 คนเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในครั้งนี้ และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 20 คน โดยมีพลเรือนรวมอยู่ด้วย พร้อมทั้งประณามว่าอิสราเอลเป็นฝ่ายกระตุ้นให้เกิดความรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิตรวมอย่างน้อย 4 คนตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา และจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเป็นเกือบ 200 คนแล้ว อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสยืนยันว่าการพร้อมใจ "อินติฟาดา" หรือ "การลุกฮือ" ของประชาคมอาหรับจะยังคงดำเนินต่อไป จนกว่าจะบรรลุเป้าประสงค์คือการได้กรุงเยรูซาเลมกลับคืนจาก "ขบวนการไซออนิสต์"
Indonesian protesters condemn Trump's decision to recognize #Jerusalem al-Quds as Israel's capital#FreePalestine pic.twitter.com/Sjlr2r1tN7
— Press TV (@PressTV) December 10, 2017
ขณะที่สถานการณ์ชุมนุมประท้วงต่อต้านสหรัฐและอิสราเอลในฉนวนกาซา เขตเวสต์แบงก์ และในฝั่งตะวันออกของกรุงเยรูซาเลม ตลอดจนในต่างประเทศรวมถึงอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่กลุ่มฮามาสและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ปลุกระดมให้ชาวปาเลสไตน์และชาวมุสลิมนานาประเทศร่วมกันลุกฮือแสดงพลังต่อต้านกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รับรองกรุงเยรูซาเลมในฐานะ "เมืองหลวง" ของอิสราเอล และเตรียมการย้ายสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐจากกรุงเทลอาวีฟให้ไปตั้งที่นั่นแทนภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เรียกเสียงประณามอย่างหนักไปทั่วทั้งตะวันออกกลางและโลกอาหรับ โดยประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ ยกเลิกกำหนดการพบหารือกับรองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ซึ่งเตรียมเยือนอิสราเอลและอียิปต์ในช่วงกลางเดือนนี้.
ที่มาของเนื้อหา : www.dailynews.co.th
 |
 |
 |
 |
 |