สันนิบาตอาหรับเตือน'ทรัมป์'คิดให้ดี! รับรอง'เยรูซาเล็ม'เป็นเมืองหลวงยิว ฉุดสันติภาพตะวันออกกลาง

เอเอฟพี

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายอาเหม็ด อาบูล เกอิต เลขาธิการสันนิบาตอาหรับ ออกมาเตือนเมื่อวันก่อนว่า การตัดสินใจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่จะให้การรับรองกรุงเยรูซาเล็ม เป็นเมืองหลวงของประเทศอิสราเอลนั้น อาจจะยิ่งเป็นการส่งเสริมความรุนแรงขึ้นในภูมิภาคและไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อกระบวนการสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์แต่อย่างใด

ขณะที่นายอัยมาน ซาฟาดี รัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน กล่าวเตือนในทำนองเดียวกันขณะพบหารือกับนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ โดยกล่าวว่าเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องคงสถานะทางประวัติศาสตร์และทางกฎหมายของกรุงเยรูซาเล็มเอาไว้และผู้นำสหรัฐควรจะระงับยับยั้งจากการตัดสินใจใดๆที่มุ่งจะเปลี่ยนแปลงสถานะดังกล่าว

ท่าทีข้างต้นของชาติอาหรับมีขึ้นในขณะที่นายจาเร็ด คุชเนอร์ ลูกเขยของทรัมป์และเป็นทูตสันติภาพในตะวันออกกลางของรัฐบาลทรัมป์ เปิดเผยในวันเดียวกันว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ใกล้ที่จะบรรลุการตัดสินใจว่าจะรับรองกรุงเยรูซาเล็ม ในฐานะเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลหรือไม่ ซึ่งถูกมองว่าเป็นความพยายามของคุชเนอร์ที่จะเลี่ยงตอบปฏิเสธต่อรายงานข่าวที่มีออกมาก่อนหน้าว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะประกาศรับรองนครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอลในวันที่ 6 ธันวาคมนี้

ข่าวแจ้งว่า ประธานาธิบดีทรัมป์จะต้องทำการตัดสินใจในวันที่ 5 ธันวาคม ว่าจะลงนามในการละเว้นสิทธิทางกฎหมายในการชะลอแผนการย้ายที่ตั้งสถานทูตสหรัฐประจำอิสราเอลจากนครเทลอาวีฟไปยังที่อื่นออกไปอีก 6 เดือนหรือไม่ หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐที่ผ่านมานับจากปี 1995 ได้ใช้สิทธิในการชะลอแผนดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่ายังไม่ถึงเวลาอันเหมาะสมที่จะย้าย

ทั้งนี้ อิสราเอลได้เข้ายึดครองเยรูซาเล็มตะวันออกและเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ในปี 1967 จากนั้น ได้ผนวกเยรูซาเล็มตะวันออกเข้าเป็นของตนเองโดยปราศจากการรับรองของประชาคมโลก ขณะที่ปาเลสไตน์อ้างว่าเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นของตนเองและจะเป็นเมืองหลวงของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต

ที่มาของเนื้อหา : www.matichon.co.th