เลบานอนกล่าวหาซาอุฯ ‘ลักพาตัว’ นายกรัฐมนตรี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ว่าประธานาธิบดีมิเชล อูน แห่งเลบานอน แถลงเมื่อวันเสาร์ เรียกร้องรัฐบาลซาอุดีอาระเบียชี้แจง "เหตุผลที่แท้จริง" ว่าเพราะเหตุใดนายกรัฐมนตรีซาอัด อัล-ฮาริรี จึงยังไม่สามารถเดินทางกลับมายังกรุงเบรุตได้ พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่าเขาไม่รับรองการลาออกของฮาริรี ที่ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจด้วยตัวเอง หรือมี "ปัจจัยกระตุ้น" ให้ตัดสินใจเช่นนั้น  เนื่องจากสถานการณ์ยังคงเต็มไปด้วย "ความคลุมเครือ" และตั้งสมมติฐานว่าฮาริรีอาจ "ถูกลักพาตัว" ในกรุงริยาด

ปธน.มิเชล อูน พบหารือกับอุปทูตซาอุดีอาระเบียประจำกรุงเบรุต

ทั้งนี้ ฮาริรี วัย 47 ปี สร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งเลบานอนและภูมิภาคตะวันออกกลาง ด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการแถลงที่กรุงริยาด โดยฮาริรีซึ่งเป็นบุตรชายของอดีตนายกรัฐมนตรีราฟิก อัล-ฮาริรี และเพิ่งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเลบานอนได้เพียง 1 ปี กล่าวถึงการตัดสินใจลาออกว่า เป็นเพราะ "คำข่มขู่ต่อชีวิตที่ไม่อาจอธิบายได้" และประณามกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ในเลบานอน ว่าเป็นตัวการบ่อนทำลายความมั่นคงในภูมิภาค และหลังจากนั้นฮาริรีไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชน หรือมีแถลงการณ์ใดออกมาอีก

แบนเนอร์เรียกร้องการปล่อยตัวฮาริรีผุดขึ้นตามท้องถนนในกรุงเบรุต

อย่างไรก็ตาม สำนักงานฝ่ายสื่อสารของนายกรัฐมนตรีเลบานอนออกแถลงการณ์เมื่อคืนวันเสาร์ ว่าฮาริรีเข้าร่วมงานที่ท่าอากาศยานนานาชาติริยาด เป็นการเลี้ยงรับรองที่สมเด็จพระราชาธิบดีซัลมานเสด็จฯกลับจากเมืองเมดินา ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดฮาริรีเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่ารัฐบาลริยาดมองว่าฮาริรีซึ่งถือสัญชาติซาอุดีอาระเบียด้วย "จำเป็นต้องพ้นจากตำแหน่ง" เนื่องจากไม่สามารถจัดการกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้ ด้านนายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ หัวหน้ากลุ่มอิซบอลเลาะห์ ประณามซาอุดีอาระเบียเจตนา "ลักพาตัว" ฮาริรี

ในเวลาเดียวกัน ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เดินทางเยือนกรุงริยาด เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และมาครงสนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีเลบานอนด้วย โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด แต่แหล่งข่าวในรัฐาลปารีสกล่าวว่า ฝรั่งเศสมีความกังวลเกี่ยวกับ "อิสรภาพ" ของฮาริรี แต่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่าฮาริรี "เป็นอิสระ" และเตือนทุกฝ่ายอย่าอาศัยวิกฤติที่เกิดขึ้นในการทำ "สงครามตัวแทน" ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าสถานการณ์การเมืองในเลบานอนครั้งนี้ อาจนำไปสู่ "การเผชิญหน้า" ระหว่างอิหร่านซึ่งเป็นชีอะห์ กับซาอุดีอาระเบียซึ่งเป็นสุหนี่.

คลิปประกอบ : PressTV News