ซูจีลงพื้นที่ในรัฐยะไข่เป็นครั้งแรก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ว่านายซอว์ เตย์ โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวว่านางออง ซาน ซูจี มนตรีแห่งรัฐและรมว.กระทรวงการต่างประเทศ ลงพื้นที่เมืองมองดอและเมืองบูตีต่อง ในรัฐยะไข่ ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศ ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยเมืองทั้งสองแห่งได้รับความเสียหายมากที่สุด ในเหตุสู้รบครั้งล่าสุดระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังติดอาวุธโรฮีนจา ที่ปะทุขึ้นเมื่อปลายเดือนส.ค. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต "มากกว่า 500 คน" และชาวโรฮีนจามากกว่า 600,000 คนหลั่งไหลลี้ภัยไปยังบังกลาเทศ
 

#BREAKING Myanmar's Suu Kyi makes first visit to crisis-hit Rakhine: official

— AFP news agency (@AFP) November 2, 2017

นอกจากนี้ การลงพื้นที่ในรัฐยะไข่ของนางซูจีในครั้งนี้ยังถือเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการด้วย ท่ามกลางเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากโลกตะวันตก ว่านางซูจีเจตนาเลี่ยงกล่าวถึงปฏิบัติการทางทหารของกองทัพเมียนมาในครั้งนี้ ที่มีความรุนแรงยิ่งกว่าสถานการณ์จลาจลเมื่อปี 2555 ซึ่งในครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิต "ประมาณ 100 คน" และชาวโรฮีนจามากกว่า 100,000 คน อพยพข้ามพรมแดนไปยังบังกลาเทศ

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเมียนมากล่าวหาบังกลาเทศว่าล่าช้าและไม่ค่อยให้ความร่วมมือในกระบวนการส่งกลับผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจา โดยนายซอว์ เตย์ สันนิษฐานว่าเป็นความพยายามประวิงเวลาของรัฐบาลบังกลาเทศ จนกว่าจะได้รับงบประมาณสนับสนุนเพิ่มเติมในเรื่องนี้จากต่างชาติ ซึ่งปัจจุบันบังกลาเทศมีกองทุนสำหรับโครงการดังกล่าวอยู่แล้วราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 13,240 ล้านบาท ). ด้านกระทรวงการต่างประทเศในกรุงธากาออกแถลงการณ์ตอบโต้ ว่าความล่าช้าที่เกิดขึ้นเป็นเพราะรัฐบาลเมียนมายังคงไม่ยอมรับเงื่อนไข 10 ข้อ ที่รวมถึงการปฏิบัติต่อชาวโรฮีนจา "อย่างเป็นธรรม" ตามแนวทางที่กำหนดโดยคณะกรรมาธิการรัฐยะไข่ ภายใต้การนำของนายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ).

ที่มาของเนื้อหา : www.dailynews.co.th