เปิดใจ ดาว ขำมิน ผู้ไม่เคยห่างละหมาด-ถือศีลอด

จะเรียกว่า อึ้ง ทึ่ง เสียว ครบเลยก็ว่าได้ ที่ว่า อึ้ง คือ ดาว ขำมิน เป็นมุสลิม ส่วนทึ่ง นี่คือ คิดได้ที่จะเอามาขึ้นปก ส่วนเสียวนี่คือ ไม่รู้เหมือนกันว่า จะคุยกันอย่างไร และจะเล่าออกแบบไหนให้รู้เรื่อง เพราะภาพที่ติดตัวของศิลปินท่านนี้ ในทุกครั้งที่ปรากฏกาย คือ ความมึนงง ถามอย่าง แต่ตอบอีกอย่าง
บ่ายแก่ๆ เดือนมิถุนายน ไม่กี่วันหลังจากย่างเข้ารอมฎอน เรามีนัดกับคุณดาว ขำมิน และคุณปู ภรรยาคู่ทุกข์ คู่ยาก ณ ห้างดังในย่านถนนพระยาสุเรนทร์ ไม่ผิดครับ ภาพที่เห็นกับสิ่งที่จินตนาการไว้ ไม่มีอะไรผิดแผก คุณดาว เดินตรงที่จุดนัดหมายด้วยคาแร็คเตอร์มึนๆ ไม่ยิ้ม ไม่แย้ม ไม่มีความรู้สึกใดๆ เปื้อนใบหน้า นอกจากความอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ยิ่งตอกย้ำความกังวลใจของทีมงานว่า เราจะได้อะไรบ้างหนอกับการพูดคุยกันในวันนี้

“ผม ถือศีลอดครับ” คำพูดแรก และน่าจะเป็นประโยคสนทนาที่ยาวที่สุดที่คุณดาวคุยกับทีมงาน หลังจากนั้น เราต้องอาศัยการพูดคุยกับสลับการถามไถ่เพิ่มเติมจากคุณปูคู่ชีวิต จับใจความได้ว่า
ดาว ขำมิน เป็นชาวคลองเตยโดยกำเนิด แม้วันนี้ เขาจะเป็น ศิลปินที่สร้างความสุขให้คนอื่น กลับมีชีวิตในวันเด็กที่ไม่ได้มีความสุขอย่างที่ควรเป็น เขาเกิดในครอบครัวที่ยากจน เป็นลูกคนสุดท้อง จากพี่น้องทั้งหมด 5 คน และ จบการศึกษาแค่ ม.6

ก่อนที่จะอาศัย เงาเสียง พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ แจ้งเกิดอย่างสวยงาม ใน รายการ กิ๊กดู๋สงคราม เพลงทางช่อง 7 ด้วยคาแร็คเตอร์ที่ไม่เหมือนใคร และคาดว่า คงไม่มีใครเหมือน จนกลายเป็นตลกขวัญใจคนไทยนั้น

เขาได้ผ่านช่วงชีวิตและอาชีพที่หลากหลาย เพียงหวังสร้างเม็ดเงินเพื่อประทังชีวิตและครอบครัว เคยเป็นพ่อค้าขายของเก่าแบกะดินตามตลาดนัด เน้นของเก่าแอนทิคจากยุโรปเป็นหลัก ซึ่งก็ไม่ต่างจากพ่อค้าคนอื่นที่มีทั้งได้และทั้งโดน ตาดีก็ได้ ตาร้ายก็เสีย
ส่วนงานร้องเพลง เล่นดนตรี ที่เหมือนพรสรรค์ที่อัลลอฮฺ (ซ.บ.) ประทานให้เขา ดาวบอกเหตุผลที่เลือกทำสั้นๆ แต่เพียงว่า “ไม่มีงาน”
อีกบางเรื่องที่หลายคนอาจไม่เคยทราบ ดาวเคยผ่านช่วงชีวิตสั้นๆ หาเงินเรียนในฐานะนักมวยมาก่อน อาจจะเป็นอะไรที่ไม่น่าจดจำเท่าไรสำหรับเขา เพราะอาชีพค้ากำปั้นของนักมวยที่ใช้ชื่อ “ดาว เจริญ” มีแต่คำว่า แพ้ และไม่ได้สร้างรายได้อย่างที่เขาฝัน

ทั้งอึ้งและทึ่ง! เปิดใจ ดาว ขำมิน ผู้ไม่เคยห่างละหมาด-ถือศีลอด

กับวันที่เขาตัดสินใจเข้าร่วมประกวดร้องเพลงในรายการดัง คุณปู ภรรยาคู่ใจเล่าให้ฟังว่า เธอจำได้ดี วันนั้น ดาวเป็นไข้ ไม่สบาย ยิ่งเจอกับแอร์เย็นๆ หลังเวที อาการยิ่งหนักขึ้น เขาสั่นไปทั้งตัว ก่อนหันมาบอกเธอว่า บังไม่ไหวแล้วปู เธอได้แต่บอกว่า สู้นะ ถ้าทำสำเร็จ อาจเปลี่ยนชีวิตเรา เขาพยายามรวบรวมเรี่ยวแรงที่พอมีเหลือ ณ เวลานั้น เดินหน้าคว้าความฝัน ซึ่งก็เป็นดังที่คุณปูว่าไว้ วันนั้น เป็นวันที่เปลี่ยนชีวิตเขาและเธออย่างไม่คาดฝันจริงๆ

“ไม่คิดเหมือนกันว่า จะมาไกลขนาดนี้ วันนั้น บังไม่สบายมาก มีอาการไข้หลบใน เจอแอร์หลังเวที นั่งสั่นไปทั้งตัว บังเขาหันมาบอกปูว่า บังไม่ไหวแล้วปู กลับกันมั้ย ถามว่า ห่วงไหม เราก็ห่วง แต่นาทีนั้น ก็ได้แต่บอกบังว่า เรามาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าบังไหว แล้วทำได้ เราอาจจะมีเงินติดตัวกลับบ้าน เขาไม่ได้พูดอะไร พอขึ้นเวทีทุกอย่างก็ออกมาอย่างที่เห็น ถ้าวันนั้น เราตัดสินใจกลับ คงไม่มีวันนี้” คุณปูเล่าย้อนเหตุการณ์
ตลอดการสนทนาที่เราคิดว่า ไม่น่าจะได้อะไร แต่เรากลับได้อะไร… ได้รู้ถึงการสู้ชีวิตของคนๆ หนึ่ง ซึ่งก่อนจะผ่านมาถึงวันนี้ ต้องผ่านบททดสอบมากมาย ล้มลุกคลุกคลาน แต่ปลายทางของการสู้ คือ ความสำเร็จ

เราได้รู้อีกว่า แม้เขาจะมีอาชีพอะไร แต่ละวันมีภารกิจรัดตัวขนาดไหน หรือคนจะมองเป็นเช่นไร แต่เขาไม่เคยห่างละหมาด และการถือศีลอด
ส่วนคำถามท้ายสุดซึ่งเราแอบหวังว่า จะมีคำคมดีๆ จากปากศิลปินผู้นี้ ทิ้งท้ายให้เกิดความประทับใจกับท่านผู้อ่าน ทำไม ประชาชนคนส่วนใหญ่ ถึงรักดาว ขำมิน

สั้นๆ เลยครับ “ไม่รู้” เป็นคำตอบสุดท้าย
ติดตามได้ที่ Berita Muslim Life
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : beritamuslimmag.com