ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันพฤหัสบดี, 2 พฤษภาคม 2567

อิสราเอลยืนยัน เจ้าชายมกุฎราชกุมารซาอุฯ แอบย่องเงียบเยือนเทลอาวีฟเมื่อเดือนที่แล้ว

Memo/Presstv – เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี เมื่อวันศุกร์ (20 ต.ค.) ว่า มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย “เจ้าชายมูฮัมหมัด บินซัลมาน แอบไปเยือนเทลอาวีฟ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่คนนี้ซึ่งขอให้ผู้สื่อข่าวปกปิดชื่อปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดการประชุมของมกุฎราชกุมารซาอุฯ ในกรุงเทลอาวีฟ บุคคลที่เขาได้ไปพบ รวมทั้งปฏิเสธที่จะเปิดเผยผลการหารือกับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล

แถลงการณ์อย่างเป็นทางการของอิสราเอลยืนยันความถูกต้องในสิ่งที่ “วิทยุเฮบรู” (Hebrew radio) ได้ออกอากาศเมื่อเร็วๆ นี้ที่เปิดเผยว่า “เจ้าชายจากราชสำนักซาอุดิอาระเบียได้ไปเยือนประเทศนี้อย่างลับๆ ในวันที่ 7 กันยายน และหารือกับเจ้าหน้าที่อาวุโสอิสราเอลต่อประเด็นการผลักดันสันติภาพในภูมิภาค”

ในช่วงเวลาดังกล่าว เอเรียล กาฮานา (Ariel Kahana) นักข่าวที่ทำงานให้กับ “มากอร์ ริชอน” (Makor Rishon) สื่อรายสัปดาห์ชาตินิยมและฝ่ายซ้าย ทวีตว่า “บินซัลมานได้เยือนอิสราเอลพร้อมกับคณะผู้แทนอย่างเป็นทางการและได้พบกับเจ้าหน้าที่ของอิสราเอล”

ไม่กี่วันต่อมาบล็อกเกอร์ซาอุดิอารเบียผู้มีชื่อเสียงที่ชื่อ “มุจตาฮิด” (Mujtahid) ได้เขียนว่า ” โนกา ทาร์โนโพลสกี้  (Noga Tarnopolsky) นักข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการอิสราเอลที่มีความน่าเชื่อถือระดับนานาชาติได้ยืนยันว่า มูฮัมหมัด บินซัลมาน ได้ไปเยือนอิสราเอล”

นักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลยืนยันถึงการประสานงานและความคืบหน้าในความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับประเทศอาหรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดารัฐอ่าว พวกเขาคาดหวังว่าบางประเทศจะประกาศเรื่องความสัมพันธ์นี้ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยความสัมพันธ์เหล่านี้วางอยู่บนข้อเท็จจริงที่ว่าซาอุดิอาระเบียและอิสราเอลมีความเป็นปรปักษ์ต่ออิหร่านร่วมกัน

เมื่อวันที่ 6 กันยายน เนทันยาฮู ประกาศว่า อิสราเอลมีความร่วมมือกันในหลายระดับกับรัฐอาหรับต่างๆ ซึ่งอิสราเอลไม่มีข้อตกลงสันติภาพด้วย เขาอธิบายว่าการติดต่อเหล่านี้เกิดขึ้นในลักษณะที่ไม่ต่อเนื่อง แต่ก็ถือเป็นความสัมพันธ์ที่รุดหน้าก้าวไกลกว่ายุคใดๆ ในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล

อายูบ คาร่า (Ayoob Kara) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอิสราเอลกล่าวว่า “มีประเทศอาหรับจำนวนมากที่มีความสัมพันธ์กับอิสราเอลโดยทางใดทางหนึ่ง โดยเริ่มจากอียิปต์และจอร์แดน (ซึ่งเชื่อมโยงกันด้วยสนธิสัญญาสันติภาพกับอิสราเอล) ซาอุดิอาระเบีย, ประเทศรัฐอ่าวเปอร์เซียต่างๆ, แอฟริกาเหนือ และส่วนหนึ่งของอิรัก (หมายถึงชาวเคิร์ด) … ประเทศเหล่านี้ร่วมมือกับ (อิสราเอล) เพราะความหวาดกลัวอิหร่านของพวกเขา ”

คาร่ายังกล่าวด้วยว่า “รัฐอ่าวส่วนใหญ่เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลเป็นอย่างดี เพราะพวกเขารู้สึกว่าพวกเขากำลังถูกคุกคามจากอิหร่านไม่ใช่อิสราเอล”

แต่เขาอธิบายว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรซุนนีซาอุดีอาระเบียกับอิสราเอลเป็นไปลับๆ และไม่เป็นที่เปิดเผยเพราะวัฒนธรรมของตะวันออกกลางที่มีความละเอียดอ่อนต่อเรื่องนี้”

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาก่อนที่เจ้าชายมูฮัมหมัดจะขึ้นสู่อำนาจ ซาอุดิอาระเบียเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูสัมพันธ์กับอิสราเอล ช่วงเวลาไม่นานมานี้ยังได้เห็นการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการระหว่างริยาดและเทลอาวีฟ ที่อดีตนักธุรกิจซาอุดีอาระเบียและอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสได้ไปเยือนอิสราเอล กล้องยังจับภาพการจับมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลและเจ้าชายซาอุฯ ซึ่งถือเป็นประวัติการณ์

อิสราเอลสนับสนุนการปิดล้อมกาตาร์ในปัจจุบันที่ดำเนินการโดยซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บาห์เรนและอียิปต์ เทลอาวีฟได้เรียกร้องหลายครั้งให้กาตาร์ยกเลิกการเป็นเจ้าภาพผู้สนับสนุนการต่อสู้ของปาเลสไตน์

ที่มาของเนื้อหา : www.publicpostonline.net