
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : มุสลิมสิงคโปร์ควรมั่นใจในผู้นำศาสนาของประเทศ ดีกว่าเชื่อฟัตวาผ่านจอ TV
รัฐมนตรีกิจการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรน้ำ ของสิงคโปร์ นาย มาซากอส ซุ้ลกิฟลี่ กล่าวในงานเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี ของโรงเรียนสอนศาสนา มัดราซะฮ์ อัล-มารีฟ ว่า ชุมชนมุสลิมสิงคโปร์ต้องพัฒนานักวิชาการจากคนในประเทศ เพื่อว่าจะได้มีความเข้าใจลึกซึ้งถึงวัฒนธรรม ค่านิยม และจริยธรรมในท้องถิ่น รวมทั้งสถานการณ์เฉพาะในสิงคโปร์ ที่เป็นสังคมแบบแยกศาสนาออกจากการเมือง เป็นสังคมพหุวัฒนธรรม และมีความหลากหลายทางศาสนา
ซุ้ลกิฟลี่ยังเรียกร้องให้ชุมชนพัฒนา และมองไปที่ผู้นำของตนเอง และว่า แสงที่สองเป็นทางนำเหล่านี้สามารถตอบโต้บรรดา นักวิชาการทางอินเตอร์เน็ตที่ผุดขึ้นมากมายราวดอกเห็นหน้าฝน ผู้ซึ่งตัดสินคนอื่นอย่างรวดเร็ว ด้วยความรู้ที่เพียงคัดลอกมาเท่านั้น นักวิชาการท้องถิ่นเหล่านี้ และโรงเรียนสอนศาสนาที่อบรมสั่งสอนพวกเขามา ไม่ควรเอาแต่หวนรำลึกถึงอุดมการณ์ในอดีต แต่ควรมองไปข้างหน้า และพยายามเข้ามามีส่วนร่วมกับสังคมในวงกว้าง เช่นเดียวกับที่คนรุ่นก่อนๆ ได้ทำมา
มัดราซะฮ์ อัล-มารีฟ เป็นหนึ่งใน 6 โรงเรียนสอนศาสนาอิสลามที่สอนเต็มวันในสิงคโปร์ ซึ่งสร้างครูสอนศาสนาสำหรับชุมชนมุสลิมในประเทศ
เขาตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ก่อตั้งมัดราซะฮ์ มีความคิดก้าวหน้า เพราะนักเรียนได้เข้าร่วม GCE หรือที่ในปัจจุบันเทียบกับ O Lvels ในปี 1960 และได้เทียบเป็น A Levels ในปี 1970 เพราะพวกเขาเชื่อว่า นักเรียนในมัดราซะฮ์จะต้องไปเป็นผู้สอนทั้งวิชาศาสนา และวิชาทางโลกทั่วไป
ยกตัวอย่างลูกชายของผู้ก่อตั้ง คามิล สุฮัยมี ซึ่งเรียนที่มัดราซะฮ์อัล-มารีฟ แล้วไปต่อด้านกฎหมายที่มหาวิทยาลัยอัล-อัซฮัร หลังจากนั้นไปศึกษาต่อวิชากฎหมายที่มหาวิทยาลัย Lincoln’s Inn ในลอนดอน ก่อนจะกลับมาเป็นนักกฎหมาย และผู้นำศาสนาด้วย
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์
ที่มา: www.straitstimes.com
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับ " มุสลิมสิงคโปร์ควรมั่นใจในผู้นำศาสนาของประเทศ ดีกว่าเชื่อฟัตวาผ่านจอ TV "