ขายเว็บนี้ ติดต่อ LINE : 0895172266
วันพฤหัสบดี, 25 เมษายน 2567

นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น เข้ารับอิสลามเพราะโองการเดียวจากอัลกุรอาน

สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ : นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่น เข้ารับอิสลามเพราะโองการเดียวจากอัล-กุรอาน

เรามักจะได้ยินผู้ที่ต่อต้านศาสนา กล่าวว่า พวกเขาเชื่อมั่นในวิทยาศาสตร์ ในขณะที่เห็นว่า พระเจ้าและศาสนาเป็นเพียงตำนาน และไม่มีหลักฐานสนับสนุนใด ๆ แต่ ดร.กามาล โอกุดะ (Dr. Kamal Okuda) นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น เป็นผู้ที่ทำให้เห็นความแตกต่าง เพราะเขาได้ก้าวข้ามเส้นที่ขีดคั่นระหว่าง การมีชีวิตอยู่โดยไร้ซึ่งพระเจ้า มาสู่ชีวิตที่จะดำรงอยู่มิได้โดยปราศจากทางนำของพระเจ้า

ก่อนมารับอิสลาม ดร.โอกุดะ อธิบายว่า เขาใช้ชีวิตอย่างไร้ศีลธรรม และไม่เคยรู้ถึงจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของชีวิต แต่เขาได้ออกแสวงหาความจริง และต้องต่อสู้ในสงครามอันน่าฉงนของศาสนาต่าง ๆ จนมาถึงอิสลาม ซึ่งเขาได้ตัดสินใจที่จะศึกษาอย่างถูกต้อง

ในช่วง 6 ปี ที่เรียนในวิทยาลัย เขาเริ่มให้ความสนใจในกฎหมายอิสลาม วันหนึ่งขณะที่เขากำลังเดินผ่าน เขาได้พบกระดาษที่เขียนงานวิจัย และสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่โองการหนึ่งของคัมภีร์อัล-กุรอาน ซึ่งเปลียนชีวิตของเขาไปตลอดกาล

อายะฮ์ นั้น กล่าวเกี่ยวกับวิธีที่อัลลอฮฺทรงสร้างมนุษย์ จากทราย ดินโคลน และฝุ่น อายะฮ์นั้นอยู่ในบทที่ 15 ข้อความที่ 26

وَلَقَدْ خَلَقْنَا الْإِنسَانَ مِن صَلْصَالٍ مِّنْ حَمَإٍ مَّسْنُونٍ

ความว่า : และแน่นอน, เราได้สร้างมนุษย์จากดินแห้ง จากดินดำเป็นตม

ขณะที่ ดร.โอกุดะ ยังคงค้นหาเกี่ยวกับอิสลามต่อไป เขาตัดสินใจย้ายไปที่เมืองอาเลปโป ประเทศซีเรีย เพื่อศึกษาต่อด้านอิสลาม และภาษาอาหรับ เขารู้สึกมีความสุขและโล่งใจหลังจากเข้ารับอิสลาม และรู้สึกเหมือนตัวเองได้รับพรอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต เขาถึงกับอุทานว่า ชั่วขณะที่เขาได้เข้ารับอิสลาม เขาเชื่อว่า นี่เป็นของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากอัลลอฮฺ ที่มอบให้กับชีวิตของเขา

ปัจจุบัน ดร.โอกุดะ เป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่างไม่เฉพาะให้กับมุสลิมชาวญี่ปุ่น แต่ให้กับคนอื่น ๆ ทั่วโลก เขาไม่เก็บสมบัติล้ำค่าเกี่ยวกับอิสลามไว้คนเดียว แต่ได้ทำงานหนักเพื่อแบ่งปันของขวัญนี้ให้กับคนอื่น ๆ ด้วย เขาทำงานอยู่ในแวดวงของเพื่อน และสหายสนิทในญี่ปุ่น เพื่อเผยแผ่สารแห่งอิสลาม โดยหวังว่า การทำงานของเขาจะช่วยให้ประชาชาติชาวญี่ปุ่น หลุดพ้นจาการใช้ชีวิตที่ปราศจากทางนำของอัลลอฮฺเท่านั้น

ที่มา: www.mvslimfeed.com

http://news.muslimthaipost.com/news/33657